Thailand Web Stat

articles

ใครที่ชอบฝากเงินดอลลาร์ฟังทางนี้เรามีสิ่งดีๆมาบอก  

ใครที่ชอบฝากเงินดอลล่าร์ฟังทางนี้ LHBLUESKY มีสิ่งดีๆมาบอก Save Dollar bluesky อย่างที่ทราบกันดีว่า ณ ตอนนี้อัตราดอกเบี้ยอยู่ในจุดสูงสุดแล้ว แต่ FED ก็ยังไม่มีแนวโน้มที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลงเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อสหรัฐที่ชะลอตัวช้าลงส่งผลให้ FED อาจจะยังคงตรึงดอกเบี้ยต่อ ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่นิยมลงทุนในต่างประเทศกันมากขึ้นด้วยปัจจัยต่างๆไม่ว่าจะเป็น ผลกระทบทางเศรษฐกิจในประเทศ โอกาสในการเติบโตของสินทรัพย์ที่ลงทุน การเข้าถึงบริษัทชั้นนำระดับโลก หรือแม้แต่ผลตอบแทนจากค่าเงิน จากสถานการณ์ดังกล่าว จึงทำให้นักลงทุนบางส่วนเลือกลงทุนในบัญชีเงินฝากสกุลเงินต่างประเทศ (Foreign Currency Deposit : FCD) เพราะได้อัตราผลตอบแทนจากดอกเบี้ยที่แน่นอนและมีสภาพคล่อง แต่สำหรับนักลงทุนบางคนเลือกกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ต่างประเทศโดยเฉพาะกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ซึ่งนอกจากจะช่วยกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนแล้ว ยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีในช่วงสภาวะตลาดผันผวนได้อีกด้วย “LHBLUESKY” เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับนัลงทุนที่ชอบลงทุนในกองทุนกลุ่มนี้ ข้อเปรียบเทียบของ LHBLUESKY กับเงินฝากสกุลเงินต่างประเทศ ถึงแม้ว่าจะเป็นบัญชีเงินฝากแต่เนื่องจากไม่ใช่สกุลเงินบาท จึงไม่ได้รับการคุ้มครองเงินต้นจากสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ส่วน LHBLUESKY มีความเสี่ยงปานกลางค่อนข้างต่ำ โดยเน้นลงทุนในตราสารหนี้ทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วโลกที่อยู่ในระดับ Investment Grade แถมยังเป็นกองทุน ETF ชั้นนำทั้ง 3 กองทุน ได้แก่– กองทุน iShares 0-5 Year Investment Grade …

ใครที่ชอบฝากเงินดอลลาร์ฟังทางนี้เรามีสิ่งดีๆมาบอก   Read More »

Wait A Minute!! ก่อนฝากเงินกับบัญชีFCD ลองดูกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศก่อนไหม ?

Wait A Minute!! ก่อนฝากเงินกับบัญชีFCD ลองดูกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศก่อนไหม ? FCD & กองทุนตราสารหนี้ ในช่วงนี้กระแสการฝากเงินบัญชี FCD กำลังมาแรง เนื่องจากค่าเงินบาทที่อ่อนตัว ทำให้คนที่อยากเก็งกำไรค่าเงินหันไปสนใจเปิดบัญชีเงินฝากFCD มากขึ้น แต่! ใครจะรู้ว่ามีอีกหนึ่งสินทรัพย์ที่มาแรงไม่แพ้กัน ก็คือ “กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ” แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าการลงทุนในสินทรัพย์ไหนเหมาะกับเรา บัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ Foreign Currency Deposit หรือเรียกสั้นๆ ว่า บัญชี FCD เป็นบัญชีที่ให้การบริการสำหรับบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่ต้องการฝากเงินเป็นสกุลเงินต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น USD, EUR, GBP หรือสกุลเงินอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งบัญชี FCD มีทั้ง บัญชีฝากประจำ, บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ และบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน กองทุนรวมตราสารหนี้ต่างประเทศ กองทุนรวมที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ ไม่ว่าจะเป็นพันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ เงินฝาก ตั๋วเงินคลัง เป็นต้น โดยจะรวบรวมเงินจากนักลงทุนมาลงทุนในตราสารหนี้ตามนโยบายของกองทุนนั้นๆ เหมาะสำหรับผู้ลงทุนระยะสั้นจนถึงระยะยาว ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลางค่อนข้างต่ำ ข้อดีข้อเสียของกองทุนรวมตราสารหนี้ต่างประเทศ VS บัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ FCD …

Wait A Minute!! ก่อนฝากเงินกับบัญชีFCD ลองดูกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศก่อนไหม ? Read More »

ส่งสัญญาณ…ประเทศตลาดเกิดใหม่กำลังมาแรง

สัญญาณตลาดเกิดใหม่กำลังมาแรง รัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนที่จะสนับสนุนให้ประเทศในกลุ่มตลาดเกิดใหม่เข้าร่วม OECD องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ หรือ The Organization for Economic Cooperation and Development (OECD) เป็นอีกหนึ่งความร่วมมือที่มีบทบาทสำคัญต่อโลกในการปรับปรุงเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของประชากร ในปัจจุบันสมาชิกส่วนใหญ่เป็นประเทศในกลุ่มที่พัฒนาแล้ว ซึ่งญี่ปุ่น และเกาหลีใต้เป็นเพียง 2 ประเทศจากแถบเอเชียตะวันออกที่ได้เข้าร่วม รัฐบาลญี่ปุ่นจึงมีแผนที่จะสนับสนุนให้ประเทศในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ได้เข้าร่วมด้วย โดยที่ไทยและอินโดนีเซียต่างแสดงความประสงค์ว่าเข้าร่วมสมาชิก OECD เช่นกัน ตลาดเกิดใหม่เอเชียยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผลมาจากภาคบริการที่ฟื้นตัว จากการประชุมระดับรัฐมนตรี OECD ปี 2567 พบว่าเศรษฐกิจของตลาดเกิดใหม่เอเชียกำลังเติบโต เนื่องจากมีแรงหนุนจากการบริโภค และการลงทุนภายในประเทศ รวมถึงภาคบริการมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการท่องเที่ยวตลาดเกิดใหม่เอเชียประกอบไปด้วยประเทศสมาชิกของกลุ่มอาเซียน ร่วมกับจีนและอินเดีย ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่อยู่ในภูมิภาคเสี่ยงต่อการเกิดภัยพิบัติบ่อยครั้ง จึงยังมีความท้าทายเป็นอย่างมากในเรื่องของความสามารถในการฟื้นตัวจากภัยพิบัติ โดยในส่วนนี้ถ้ามีการประสานงานที่มีประสิทธิภาพ และมีการจัดการที่เหมาะสมเพื่อรับมือกับภัยพิบัติ จะสามารถจำกัดผลกระทบในเชิงลบต่อภูมิภาคในวงกว้างได้ เวียดนาม อนาคตตลาดเกิดใหม่ เติบโตในระยะยาว เศรษฐกิจของเวียดนามในไตรมาสแรกถึงแม้ว่าจะเติบโตได้น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ยังมีเงินลงทุนไหลเข้าประเทศเป็นจำนวนมาก มีแนวโน้มสูงมากที่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ในอนาคต ประกอบกับยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่ทาง Global EV Outlook 2024 เปิดเผยออกมานั้น บางตลาดมียอดขายชะลอตัวลง แต่สำหรับเวียดนาม …

ส่งสัญญาณ…ประเทศตลาดเกิดใหม่กำลังมาแรง Read More »

ให้กรุ๊ปเลือดทำนาย !! ค้นหาแนวทางการลงทุนที่ใช่ ให้เข้ากับบุคลิค

ให้กรุ๊ปเลือดทำนาย ค้นหาแนวทางการลงทุนที่ใช่ ให้เข้ากับบุคลิก ให้กรุ๊ปเลือดทำนาย รู้หรือไม่? กรุ๊ปเลือดไม่ได้บ่งบอกเพียงแค่เรื่องสุขภาพ หรือ บุคลิกภาพ เท่านั้น แต่ยังสามารถบอกถึงสไตล์การลงทุนของคุณได้ด้วย ลองมาดูกันว่าแต่ละกรุ๊ปเลือดเหมาะกับการลงทุนแบบไหนบ้าง แล้วคุณจะพบว่าความแตกต่างของกรุ๊ปเลือดมีผลต่อการลงทุน แต่ยังช่วยค้นหาแนวทางในการลงทุนให้ได้คุณอีกด้วย กองทุนแนะนำตามกรุ๊ปเลือด กรุ๊ป A ลักษณะนิสัย : เรียกได้ว่าเป็นคนที่ Perfectionist สุดๆ ประมาณว่าถ้าใครไม่เป๊ะ แต่ฉันต้องเป๊ะ เป็นคนมั่นใจในตัวเอง เป็นตัวของตัวเองสูง มีความรับผิดชอบ เคร่งครัด และเป็นคนจริงจัง แต่ข้อเสียคือเป็นคนSensitiveถ้าหากว่าสิ่งที่วางแผนไว้ไม่เป็นไปตามแพลน กองทุนแนะนำ : กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ – ตราสารหนี้ต่างประเทศ เช่น LHBLUESKY-A SCBFST KT-CSBOND-A * AEOB * TMBEBF * *กองทุนนี้ร่วมแคมเปญเทรดให้คลายร้อน ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คลิก กรุ๊ป B ลักษณะนิสัย : เป็นคนรักอิสระ มองโลกในแง่ดี ไม่ชอบถูกบังคับมากจนเกินไป มีไหวพริบดี แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เก่ง และมีเป้าหมายในชีวิตที่ค่อนข้างชัดเจน แต่ข้อเสียคือเป็นคนขี้ลืมเพราะทำอะไรหลายอย่างในเวลาเดียวกัน …

ให้กรุ๊ปเลือดทำนาย !! ค้นหาแนวทางการลงทุนที่ใช่ ให้เข้ากับบุคลิค Read More »

เจาะลึกตลาดไหนน่าจับตามอง ตลาดเกิดใหม่ VS ตลาดพัฒนาแล้ว

เจาะลึกตลาดไหนน่าจับตามอง ตลาดเกิดใหม่ VS ตลาดพัฒนาแล้ว สำหรับนักลงทุนหลายท่านที่กำลังมองหาโอกาสในการลงทุนสร้างผลตอบแทนในจังหวะนี้ อาจจะกำลังชั่งใจว่าสถานการณ์อย่างนี้ ควรลงทุนในไหนดี บทความนี้เลยจะมาพูดถึง ตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) และ ตลาดที่พัฒนาแล้ว (Develop Market) ซึ่งทั้งสองเป็นประเภทตลาดที่กำลังมาแรงของวงการการลงทุน มาดูกันเลยว่าสองตลาดนี้ต่างกันยังไง ตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market หรือ EM) กลุ่มประเทศที่มีตลาดเกิดใหม่ หรือประเทศที่เศรษฐกิจกำลังพัฒนา อยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านจากระบบเศรษฐกิจแบบดั้งเดิมไปสู่ระบบเศรษฐกิจสมัยใหม่ ซึ่งอาจจะพิจารณาได้จากรายได้เฉลี่ยต่อหัวของประชากรในประเทศ โดยประเทศตลาดเกิดใหม่จะมีลักษณะเด่น คือ ปัจจัยพื้นฐานดี มีประชากรที่อยู่ในวัยแรงงานเยอะ รวมถึงอัตราการเติบโตของ GDP มีโอกาสเติบโตได้มากกว่าค่าเฉลี่ยถ้ามองในมุมมองของนักลงทุนประเทศตลาดเกิดใหม่ถือว่าเป็นโอกาสในการลงทุน ด้วยความที่เป็นประเทศที่มีประชากรจำนวนมากอยู่ในวัยแรงงาน มีความต้องการซื้อมาก เรียกได้ว่าเป็นฐานผู้บริโภคขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อได้เปรียบทางธุรกิจ รวมไปถึงมีทรัพยากรธรรมชาติราคาถูก ส่งผลให้มีต้นทุนการผลิตต่ำ อีกทั้งในหลายประเทศยังมีนโยบายดึงดูดการลงทุน เช่น ยกเว้นภาษี สนับสนุนเงินทุน เพื่อดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลกอีกด้วย แต่ก็ยังมีความท้าทายมาก เนื่องจากตลาดเกิดใหม่จะมีความผันผวนสูง โครงสร้างพื้นฐานยังมีความล้าหลัง เช่น สาธารณูปโภคบางประเภท แต่ก็มีอัตราการเติบโตที่สูง และรวดเร็วกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว นักลงทุนจึงมีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงตามไปด้วยตัวอย่างประเทศที่อยู่ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ เช่น ไทย ฟิลิปปินส์ …

เจาะลึกตลาดไหนน่าจับตามอง ตลาดเกิดใหม่ VS ตลาดพัฒนาแล้ว Read More »

คืนตกขบวน…ขึ้นขบวนหุ้นกู้ไม่ทัน ลองหันมาขึ้นขบวนกองทุนตราสารหนี้ดูไหม ?

คืนตกขบวน… ขึ้นขบวนหุ้นกู้ไม่ทัน ลองหันมาขึ้นขบวนกองทุนตราสารหนี้ดูไหม ? ขบวนกองทุนตราสารหนี้ ช่วงหลายปีที่ผ่านมามีหุ้นกู้ออกใหม่เป็นจำนวนมาก เช่น PTT, SCGP, SCC, PTTGC เพียงแค่ระยะเวลาไม่กี่นาทีก็ถูกจองซื้อจนหมดเกลี้ยง มีทั้งนักลงทุนรายใหญ่และนักลงทุนรายย่อยจำนวนมากที่จองซื้อไม่ทัน จึงทำให้หลายคนจึงเกิดข้อสงสัยว่าทำไมหมดไวจัง? แล้วคนที่จองซื้อหุ้นกู้ได้มีเทคนิคหรือวิธีการจองซื้อหุ้นกู้ให้ทันได้อย่างไร ? ทางเลือกสำหรับคนที่ขึ้นขบวนหุ้นกู้ไม่ทัน สำหรับคนที่สนใจจะจองซื้อหุ้นกู้แต่จองซื้อไม่ทัน ยังมีอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ นั่นก็คือ การลงทุนผ่านกองทุนตราสารหนี้ แต่ขอบอกก่อนว่าหุ้นกู้กับกองทุนตราสารหนี้ไม่ได้เหมือนกันซะทีเดียว หุ้นกู้ คือ ตราสารหนี้ที่ออกโดยภาคเอกชนเพื่อระดมทุน เมื่อซื้อหุ้นกู้แล้วผู้ซื้อจะมีสถานะเป็นเจ้าหนี้ ส่วนบริษัทที่ออกหุ้นกู้จะมีสถานะเป็นลูกหนี้ โดยจะได้รับผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยตามระยะเวลาที่กำหนด ส่วนกองทุนตราสารหนี้ คือ กองทุนรวมที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ เช่นพันธบัตรรัฐบาล และ หุ้นกู้  โดยตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาล จะเรียกว่า “พันธบัตรรัฐบาล” ส่วนตราสารหนี้ที่ออกโดยเอกชน จะเรียกว่า “หุ้นกู้”   เป็นการรวบรวมเงินจากนักลงทุนมาลงทุนตามนโยบายของกองทุนรวมนั้นๆ เพื่อกระจายความเสี่ยง ซึ่งนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนเป็นกำไรจากการการขายหน่วยลงทุนและเงินปันผลของกองทุนรวม (ในกรณีที่กองทุนมีนโยบายจ่ายเงินปันผล)  ขบวนตราสารหนี้ การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้มีข้อดีมากมาย เช่น ใช้เงินลงทุนน้อย(ขึ้นอยู่กับขั้นต่ำการซื้อของแต่ละกองทุน), ซื้อขายได้ทุกวันทำการ, ช่วยกระจายความเสี่ยงในพอร์ต แต่การซื้อหุ้นกู้รายตัวก็มีข้อดีเช่นกัน คือได้รับผลตอบแทนแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่อาจเจอกับความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย การผิดนัดชำระหนี้ หรือแม้แต่การขาดสภาพคล่องของบริษัท …

คืนตกขบวน…ขึ้นขบวนหุ้นกู้ไม่ทัน ลองหันมาขึ้นขบวนกองทุนตราสารหนี้ดูไหม ? Read More »

โพยกองทุนฉบับบินลัดฟ้า ลงทุนใน “ตราสารหนี้ต่างประเทศ”

โพยกองทุนฉบับบินลัดฟ้า ลงทุนใน “ตราสารหนี้ต่างประเทศ” LHBLUESKY-A กองทุนเปิด แอล เอช บลู สกาย อินคัม ฟันด์ ชนิดสะสมมูลค่า กระจายการลงทุนในตราสารหนี้ระดับ investment grade ทั้งในสหรัฐฯ และยุโรปประเภทกองทุน (AIMC) : Global Bond Discretionary F/X Hedge or Unhedgeความเสี่ยง : 4ซื้อขั้นต่ำครั้งแรก : 1,000 บาท ข้อมูลกองทุนเพิ่มเติม AEOB กองทุนเปิด อเบอร์ดีน อีเมอร์จิ้ง ออพพอร์ทูนิตี้ส์ บอนด์ ฟันด์ ลงทุนในตราสารหนี้ของประเทศตลาดเกิดใหม่ เน้นสร้างผลตอบแทนในระยะยาวประเภทกองทุน (AIMC) : Emerging Market Bond Discretionary F/X Hedge or Unhedgeความเสี่ยง : 6ซื้อขั้นต่ำครั้งแรก : 1,000 …

โพยกองทุนฉบับบินลัดฟ้า ลงทุนใน “ตราสารหนี้ต่างประเทศ” Read More »

Optimize Portfolio ฟังก์ชันปรับแต่งพอร์ตโฟลิโอ ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

Optimize Portfolio ฟังก์ชันปรับแต่งพอร์ตโฟลิโอ ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด Optimize Portfolio แน่นอนว่าในเรื่องของการลงทุนผลตอบแทนมักจะมาพร้อมกับความเสี่ยงเสมอ ยิ่งต้องการผลตอบแทนสูงความเสี่ยงก็ยิ่งสูงตาม ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนระยะสั้นหรือการลงทุนระยะยาว พอร์ตการลงทุนก็ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ฉะนั้นการปรับแต่งพอร์ตโฟลิโอให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คือ “ Optimize Portfolio” Optimize Portfolio คือ การปรับสัดส่วนพอร์ตการลงทุนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด อาจจะเน้นการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภท เช่น หุ้น กองทุนรวม หรือแม้แต่การเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น ตราสารหนี้ ขึ้นอยู่กับการตั้งเป้าหมายการลงทุนของแต่ละคน การ Optimize Portfolio เป็นการคำนวณสัดส่วนของการลงทุนจากอัตราผลตอบแทนที่คาดหวัง ความเสี่ยง และการคำนวณการกระจายลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ฉะนั้นการ Optimize Portfolio จะช่วยให้นักลงทุนมีโอกาสได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในการสร้างผลตอบแทนหรือลดความเสี่ยงของพอร์ตในสถานการณ์ที่เหมาะสม ทำไมต้อง Optimize Portfolio เพราะการลงทุนไม่มีสินทรัพย์ไหนที่จะมั่นคงเสมอไป อาจจะมีขึ้น-ลงบ้างตามจังหวะสถานการณ์ ฉะนั้นเราจึงต้อง Optimize Portfolio เพื่อ การลดความเสี่ยง : การกระจายลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภทเพื่อช่วยลดความเสี่ยงของพอร์ต หากมีความผิดพลาดหรือเกิดความผันผวนของตลาดสินทรัพย์อื่นๆ ที่ไม่ได้รับผลกระทบก็ยังคงมีโอกาสทำกำไรหรือดำเนินการได้ตามปกติ การเพิ่มผลตอบแทน : การประเมินว่าจะลงทุนในสินทรัพย์ใดให้ได้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดในระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากการลงทุน …

Optimize Portfolio ฟังก์ชันปรับแต่งพอร์ตโฟลิโอ ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด Read More »

NEER / REER คืออะไร ? ทำไมเทียบแค่ THB-USD อย่างเดียวไม่พอ

NEER / REER คืออะไร ? ทำไมเทียบแค่ THB-USD อย่างเดียวไม่พอ NEER / REER ในปัจจุบันที่ค่าเงินบาทอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับค่าเงินบาทอ่อนมีมากมาย เช่น ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ นโบายทางการเงิน หรือแม้แต่การเกร็งกำไรของสินทรัพย์ประเภทต่างๆ หากจะคาดการณ์แนวโน้มค่าเงินบาทในอนาคต จะต้องทำความเข้าใจกับดัชนี NEER/REER NEER คืออะไร NEER (Nominal Effective Exchange Rate) หรือ ดัชนีค่าเงินบาท เป็นดัชนีวัดค่าเงินที่มาจากการหาค่าเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนักของอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทต่อค่าเงินประเทศอื่นๆ ซึ่งถ้าหาก NEER เพิ่มขึ้น แสดงว่า เงินบาทอ่อนค่าลง ส่งผลให้ไทยเสียเปรียบด้านอัตราแลกเปลี่ยนในแง่ของการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ซึ่งจะแพงขึ้น แต่เป็นผลดีกับการส่งออกสินค้าของไทยที่สามารถส่งออกได้มากขึ้น เนื่องจากประเทศคู่ค้ามองว่าสินค้าของเราถูกลง ในทางกลับกันถ้าหาก NEER ลดลง แปลว่าค่าเงินบาทแข็งขึ้น หมายความว่าไทยจะได้เปรียบด้านอัตราแลกเปลี่ยน ในแง่ของการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ แต่ก็สามารถส่งออกสินค้าได้น้อยลงเช่นกัน เพราะประเทศคู่ค้ามองว่าสินค้าจากเราแพง REER คืออะไร REER (Real Effective Exchange Rate) หรือ …

NEER / REER คืออะไร ? ทำไมเทียบแค่ THB-USD อย่างเดียวไม่พอ Read More »

เทียบให้ชัด Nasdaq 100 vs. S&P 500 เลือกตัวไหน?

เทียบให้ชัด Nasdaq 100 vs. S&P 500 เลือกตัวไหน!? ในแวดวงของการลงทุน เชื่อว่านักลงทุนหลายท่านย่อมรู้จักดัชนีหุ้นของฝั่งสหรัฐฯ กันมาบ้างแล้ว เนื่องจากสหรัฐฯ ถือว่าเป็นประเทศมหาอำนาจหนึ่งของโลก ดังนั้น การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็ย่อมส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นอื่นๆทั่วโลกได้  แต่ดัชนีของสหรัฐฯ ก็แยกออกเป็นหลายตัว แต่สองตัวที่ได้ยินกันบ่อยจะมี Nasdaq 100 และ S&P 500 มาพร้อมกับคำถามยอดฮิตว่าควรเก็บตัวไหนเข้าพอร์ตดี? ทุกคนสงสัยกันมั้ยว่าทั้งสองตัวเป็นดัชนีของสหรัฐฯ เหมือนกันทั้งคู่ แล้วความต่างของสองตัวนี้มันอยู่ตรงไหน? ดัชนี Nasdaq 100 เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1985 ซึ่งเป็นดัชนีที่รวมบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด 100 แห่ง โดยมีทั้งบริษัทในอเมริกา รวมไปถึงบริษัทของต่างประเทศ ที่จดทะเบียนในตลาด Nasdaq และเรียกได้ว่าเป็นตัวแทนของหุ้นเทคโนโลยีเลยก็ว่าได้ เนื่องจากหุ้นจากบริษัท 100 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นบริษัทเทคโนโลยี และนวัตกรรมชั้นนำของโลกที่มีการเติบโตสูง ซึ่งดัชนี Nasdaq 100 จะไม่มีการนำบริษัทในกลุ่มสถาบันการเงินเข้ามาคำนวณด้วยตัวอย่างบริษัทที่อยู่ในดัชนี Nasdaq 100 เช่น Apple (AAPL) …

เทียบให้ชัด Nasdaq 100 vs. S&P 500 เลือกตัวไหน? Read More »