Thailand Web Stat

เทียบให้ชัด Nasdaq 100 vs. S&P 500 เลือกตัวไหน!?

ในแวดวงของการลงทุน เชื่อว่านักลงทุนหลายท่านย่อมรู้จักดัชนีหุ้นของฝั่งสหรัฐฯ กันมาบ้างแล้ว เนื่องจากสหรัฐฯ ถือว่าเป็นประเทศมหาอำนาจหนึ่งของโลก ดังนั้น การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็ย่อมส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นอื่นๆทั่วโลกได้  แต่ดัชนีของสหรัฐฯ ก็แยกออกเป็นหลายตัว แต่สองตัวที่ได้ยินกันบ่อยจะมี Nasdaq 100 และ S&P 500 มาพร้อมกับคำถามยอดฮิตว่าควรเก็บตัวไหนเข้าพอร์ตดี? ทุกคนสงสัยกันมั้ยว่าทั้งสองตัวเป็นดัชนีของสหรัฐฯ เหมือนกันทั้งคู่ แล้วความต่างของสองตัวนี้มันอยู่ตรงไหน?

ดัชนี Nasdaq 100

เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1985 ซึ่งเป็นดัชนีที่รวมบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด 100 แห่ง โดยมีทั้งบริษัทในอเมริกา รวมไปถึงบริษัทของต่างประเทศ ที่จดทะเบียนในตลาด Nasdaq และเรียกได้ว่าเป็นตัวแทนของหุ้นเทคโนโลยีเลยก็ว่าได้ เนื่องจากหุ้นจากบริษัท 100 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นบริษัทเทคโนโลยี และนวัตกรรมชั้นนำของโลกที่มีการเติบโตสูง ซึ่งดัชนี Nasdaq 100 จะไม่มีการนำบริษัทในกลุ่มสถาบันการเงินเข้ามาคำนวณด้วย
ตัวอย่างบริษัทที่อยู่ในดัชนี Nasdaq 100 เช่น Apple (AAPL) ที่เรารู้จักกันดีว่าเขาขายสินค้าและอุปกรณ์ it อย่าง iPhone หรือ iPad อีกทั้งยังมี Microsoft(MSFT), Alphabet(GOOGL/GOOG), Amazon.com(AMZN) และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีชั้นนำที่ถ้าพูดชื่อไปหลายคนต้องอ๋ออย่างแน่นอน

ดัชนี S&P 500

เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1957 เป็นดัชนีที่เรียกได้ว่าสะท้อนภาพรวมตลาดและเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ได้ดีที่สุด เนื่องจากประกอบด้วยหุ้นจากบริษัทยักษ์ใหญ่ 500 แห่ง ที่จดทะเบียนในตลาด NYSE และตลาด Nasdaq มีสภาพคล่องสูง โดยมูลค่าตลาดรวมของ S&P 500 คิดเป็นกว่า 80% ของมูลค่าตลาดหุ้นทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา
ตัวอย่างบริษัทที่อยู่ในดัชนี S&P 500 เช่น Enphase Energy(ENPH), Tesla(TSLA), NVIDIA(NVDA) รวมไปถึงยังมีบริษัทบางแห่งที่อยู่ในดัชนี Nasdaq 100 เช่นกัน อย่าง Apple (AAPL) หรือ Microsoft(MSFT) แต่ในดัชนี S&P 500 จะไม่ได้เจาะจงแค่บริษัทด้านเทคโนโลยีเป็นหลักเท่านั้นเอง
ค่าธรรมเนียมกองทุน
ส่วนที่ต่างกันของสองดัชนีนี้ คือ ดัชนี S&P 500 กระจายสัดส่วนในการลงทุนหลากหลายอุตสาหกรรมมากกว่าทั้งเทคโนโลยี, healthcare, สินค้าอุปโภคบริโภค และอีกมากมายรวมไปถึงในด้านการเงินด้วย แต่ดัชนี Nasdaq 100 จะเน้นบริษัทที่ลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยีโดยมีสัดส่วนที่มากกว่าครึ่ง และไม่มีบริษัทในกลุ่มสถาบันการเงิน
สำหรับการเลือกลงทุนในดัชนีตัวไหนดีกว่ากันนั้น ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ ความเสี่ยง และวัตถุประสงค์ของแต่ละคน ถ้าอยากลงทุนแบบหลากหลายและมั่นคงก็อาจจะลงในดัชนี S&P 500 หรือถ้าอยากลงทุนเน้นในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี และรับความเสี่ยงได้มากกว่า ก็เลือกเป็นดัชนี Nasdaq 100 ได้ แต่อย่างไรก็ตาม การลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูล และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

WealthMagik – ลงทุนง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว

โทร 02 – 437 – 1588

Line : @WealthMagik หรือ คลิกที่นี่ 

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

WealthMagik – ลงทุนง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว

โทร 02 – 437 – 1588

Line : @WealthMagik หรือ คลิกที่นี่