Thailand Web Stat

กองทุน LTF, RMF ลดหย่อนภาษีได้ทั้งคู่ แล้วมันต่างกันอย่างไร

        ในบรรดากองทุนรวมซึ่งประกอบไปด้วย ประเภทกองทุนมากมายให้ได้เลือกลงทุนกัน ยังมีกองทุนรวมอยู่ 2 ประเภทที่นอกจากได้ลงทุนแล้ว ยังช่วยนักลงทุนลดภาระทางภาษีลงได้อีกด้วย นั่นก็คือ กองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือ กองทุน LTF (Long Term Equity Fund) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ กองทุน RMF (Retirement Mutual Fund) ครับ

        ทีนี้เราพบว่าทั้ง 2 ประเภทนี้ได้ทั้งเรื่องการลงทุน บวกกับการลดหย่อนภาษี แล้วเราจะเลือกกองทุน LTF หรือ RMF ดี ก็ต้องมาดูแล้วละครับ ว่า 2 ประเภทนี้ เหมือนกัน หรือ ต่างกันอย่างไรบ้าง มาดูกันเป็นข้อๆตามนี้ครับ

        นโยบายในการลงทุน

        LTF แน่นอนว่าชื่อก็บอกอยู่แล้วว่ากองทุนรวมหุ้นระยะยาวนะครับ เพราะฉะนั้นนโยบายการลงทุนก็จะเน้นการลงทุนในหุ้นเป็นหลัก ซึ่งจะต้องลงทุนในหุ้นไม่ต่ำกว่า 65% เพราะฉะนั้นก็จะมีระดับความเสี่ยงที่สูงครับ
        RMF ในเรื่องของนโยบายแล้ว มีความหลากหลายมากกว่า มีระดับความเสี่ยงของสินทรัพย์ที่เข้าลงทุนตั้งแต่ต่ำไปจนสูงเลย เช่น ลงทุนในตราสารหนี้, หุ้น หรือ แม้แต่ทองคำ ทำให้นักลงทุนเลือกตามระดับความเสี่ยงที่ตนเองยอมรับได้

        ระยะเวลาการลงทุน

        LTF จะต้องถือครองเป็นเวลา 5 ปีปฏิทินนะครับ หมายถึง เราจะดูกันที่ พ.ศ. เช่นเราอาจจะซื้อ 28 ธันวาคม 2557 และขาย 3 มกราคม 2561 แปลว่าช่วงเวลาที่เราลงทุนได้แก่ปี 57, 58, 59, 60 และ 61 นับเป็น 5 ปีปฏิทิน ก็ถือว่าไม่ผิดเงื่อนไขนะครับ (สำหรับการลงทุนตั้งแต่ตอนนี้ถึง พ.ศ. 2559 เท่านั้น หลังจาก พ.ศ. 2559 ต้องรอพิจารณาครับ)
        RMF เน้นออมระยะยาวครับ เพราะฉะนั้นถือยาวครับ ต้องถือยาวจนกระทั่งอายุ 55 ปี และ ไม่น้อยกว่า 5 ปี (นับวันนะครับ)

        ความต่อเนื่องในการลงทุน

        LTF ไม่จำเป็นต้องลงทุนต่อเนื่องครับ กล่าวคือ ลงทุนปีไหน ก็ลดหย่อนภาษีปีนั้นๆเลย
        RMF ต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี เว้นได้ไม่เกิน 1 ปีนะครับ แปลว่าถ้าเริ่มลงทุนแล้ว ต้องมีวินัยในการลงทุนที่ดีครับ

        จำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ และสูงสุด

        LTF ไม่มีขั้นต่ำนะครับ แต่ลงทุนได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้ในปีนั้นๆ และไม่เกิน 500,000 บาท เช่น ถ้าเงินได้ 400,000 บาท จะสามารถลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 0.15*400,000 = 60,000 บาทครับ
        RMF ต้องลงทุนไม่น้อยกว่า 3% ของเงินได้ หรือไม่น้อยกว่า 5,000 บาทต่อปี แต่ลงทุนได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้ และไม่เกิน 500,000 บาทเช่นเดียวกัน แต่ในส่วนที่ไม่เกิน 500,000 บาทนั้น ต้องรวมเข้ากับ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือ กบข. และเบี้ยประกันแบบบำนาญด้วยนะครับ

        เอาละ สรุปได้หรือยังว่าจะเลือกลงทุนใน LTF หรือ RMF ดีครับ แต่ข่าวดีครับ เราสามารถลงทุนทั้งคู่ ทั้ง LTF และ RMF เลยนะครับ ยังไงถ้าต้องการดูว่าแล้ว LTF หรือ RMF ตอนนี้มีกองไหนกันบ้าง แล้วรายละเอียดเป็นยังไงกันบ้าง สามารถแวะไปเยี่ยมชมที่

        http://www.wealthmagik.com/FundInfo/TopFundPerformance.aspx

        http://www.wealthmagik.com/Screener/BasicScreener.aspx

แล้วคุณจะรู้ว่าโอกาสที่คุณจะมั่งคั่งนั้นอยู่แค่ปลายนิ้วสัมผัส

WEALTHMAGIK
WEALTH FOR THE MASS