Thailand Web Stat

โค้งสุดท้ายกับการลงทุน

        โค้งสุดท้ายปลายปีภาษีแบบนี้ เรา ๆ ท่าน ๆ จะได้ยินโฆษณาเชิญชวนให้ลงทุนในกองทุนรวมเพื่อใช้ในการลดหย่อนภาษีอย่างกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) กันหนาหูมากขึ้น ข้อความที่สื่อออกมาจะมีแบบ "ได้เวลาลดภาษีกันแล้ว" "ลดภาษีด้วย ได้ Cash Back ด้วย" "คืนเงินภาษีสูงสุด 350,000 บาท"

        ผมเห็นตัวเลขแล้วก็ตื่นตาตื่นใจ โอ้มายลอร์ด! สามแสนห้าหมื่นบาทถ้วน เลยหรือนี่ พออาการตกใจกับตัวเลขหมดไป และมาพินิจพิเคราะห์แล้ว จึงลงมือเขียนบทความนี้เพื่อที่จะขยายความว่า ตัวเลขที่เค้าำนำเล่น ๆ กันมันมีที่มาอย่างไร และมันจะมีที่ไปอย่างไร ใครบ้างที่จะได้เงินตามที่โฆษณา แล้วอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ ในความเป็นจริงแล้ว จะได้เงินคืนภาษีกันเท่าไหร่ เราลองมาดูกันครับ

        ผมเริ่มต้นด้วยเงื่อนไขในการลงทุนในกองทุนรวมประเภท LTF/RMF ก่อน ดังนี้

        1) เงื่อนไขการลงทุนใน LTF/RMF คือ ลงทุนสูงสุดได้ไม่เกิน 15% ของรายได้ต่อปี แต่ต้ิองไม่เกิน 500,000 บาท

        2) RMF จะพิเศษใส่ไข่นิดนึงตรงที่จะต้องถูกนำไปรวมกับเงินสะสมเพื่อการเกษียณอื่่น ๆ ด้วย เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) หรือกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ เงินทั้ง 3 ก้อนรวมกันต้องไม่เกิน 500,000 บาทนะครับ (ห้ามลืม เพราะถ้าลืมจะทำให้มีโอกาสซื้อ RMF เกินได้)

จากเงื่อนไขที่กล่าวไป และตัวเลข 350,000 บาทที่เรากำลังจะคว้ามันมาตามโฆษณา คุณจะต้อง

  • ไม่มี PVD หรือ กบข.
  • ไม่มีเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ
  • ไม่มีค่าลดหย่อนอะไรอื่น ๆ เลย (นอกจากค่าใช้จ่าย, ค่าลดหย่อนส่วนตัว และกองทุนประกันสังคม)
  • มีเงินได้ต่อปีอย่างน้อย 5,099,001 บาท ขึ้นไป (เงินเดือนตกเดือนละ 4 แสนกว่าบาท นี่มันระดับผู้บริหารแล้วนะครับ ^^’)
  • ซื้อ LTF 500,000 บาท (15% ของ 5,099,000 = 764,850 แต่ตามกฏซื้อได้สูงสุด 500,000)
  • ซื้อ RMF 500,000 บาท (15% ของ 5,099,000 = 764,850 แต่ตามกฏซื้อได้สูงสุด 500,000)

        แล้วหลังจากนั้นก็นอนตีพุงรอรับเงินภาษีคืน 350,000 บาทได้เลย เพราะว่าถ้าคุณเข้าเงื่อนไขด้านบนแล้ว ฐานภาษีของคุณคือ 35% (ตามอัตราภาษีใหม่ปี 2556 ของผู้เงินได้สุทธิมากกว่า 4,000,000 บาทขึ้นไป) เท่ากับว่า คุณลงทุนใน LTF/RMF ไปทั้งหมด 1,000,000 บาท 35% ก็คือ 350,000 บาทนั่นเอง

        ในที่นี้ผมจะแสดงข้อมูลการคิดเงินคืนภาษีจากโปรแกรมการวางแผนทางการเงินเพื่อประหยัดภาษี (Tax-Saving Plan) ใน Website ของ WealthMagik ที่ http://www.wealthmagik.com/FP/TPInput.aspx?mode=NP 

taxplan1

ขั้นตอนที่ 1 บันทึกข้อมูลในที่นี้ประมาณการรายได้ต่อปี 5,099,004 บาทและภาษีหัก ณ ที่จ่าย
(เป็นภาษีโดยประมาณ คำนวณจากฐานภาษีใหม่ที่จะใช้สำหรับปีภาษี 2556)

taxplan2

ขั้นตอนที่ 2 บันทึกข้อมูลค่าใช้จ่ายเพื่อใช้ลดหย่อนภาษี

taxplan3

taxplan4

ขั้นตอนสุดท้าย สรุปเงินภาษีที่ได้คืน 350,000 บาท


        จากข้อมูลข้างต้น ทำให้เรารู้ว่า ถ้าเราจะได้เงินภาษีคืนตามโฆษณานั้น เราทำยังไงก็ได้ให้มีเงินได้สุทธิเกินกว่า 4,000,001 บาทขึ้นไป (ถ้าเรามีค่าลดหย่อนอื่น ๆ เพิ่มขึ้น เช่น เบี้ยประกันชีวิต, ดอกเบี้ยกู้ยืมเพื่อที่อยู่อาศัย เราก็ต้องมีเงินได้เพิ่มมากขึ้นตามนั้น)

        ซึ่งในโลกของความเป็นจริงสำหรับผมแล้ว ผมคงลืมตัวเลข 350,000 บาทไปก่อน (รายได้สุทธิต่อปีเกิน 4 ล้านเนี่ยนะ เกินเอื้อมจริง ๆ ครับ) แต่จะเลือกใช้ LTF/RMF มาเป็นเครื่องมือในการวางแผนการเงินเพื่อช่วยประหยัดภาษีและเพื่อการเกษียณอายุแทนมากกว่า โดยพยายามใช้เงื่อนไขในการลงทุนด้วยยอดเงินสูงสุด (15% ของรายได้ต่อปี) เพียงเท่านี้ ผมก็จะได้เงินคืนภาษีมาพอสมควร แถมยังช่วยให้เงินทำงานได้อีกทาง และวาดฝันถึงการเกษียณอย่างมีความสุขได้

        ถ้าใครสนใจในการวางแผนการเงินเพื่อช่วยประหยัดภาษี เพื่อดูว่า เรายังสามารถเพิ่มค่าลดหย่อนอะไรได้อีก และเมื่อเพิ่มแล้วเราจะประหยัดภาษีได้เพิ่มขึ้นอีกเท่าไหร่ ก็เข้ามาใช้บริการฟังก์ชันนี้ได้ที่ Website ของ WealthMagik ตาม Link นี้ ได้ตลอด 24 ขั่วโมงเลยครับ

โชคดีในการลงทุนครับ … สาดคม ประกายดาบ