Thailand Web Stat

รีไฟแนนซ์บ้าน ลดดอกเบี้ยเพิ่มเงินออม เพิ่มการเงินมั่งคั่ง

รีไฟแนนซ์บ้าน

สำหรับใครที่ลงทุนซื้อบ้านและกำลังผ่อนบ้านอยู่ แล้วกังวลใจเรื่องความคุ้มค่าและการจัดการเงินที่จะต้องผ่อนจ่ายทุกเดือนในระยะยาว
“การรีไฟแนนซ์” ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยลดทั้งดอกเบี้ยและภาระค่าผ่อนชำระต่อเดือน อีกทั้งยังช่วยให้ผ่อนหมดได้เร็วขึ้นอีกด้วย โดยวันนี้ผมจะพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักกับการรีไฟแนนซ์กันครับว่าดียังไง ช่วยลดดอกเบี้ยยังไงบ้าง 

การวางแผนการเงินกับการรีไฟแนนซ์บ้าน

การวางแผนการเงิน ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่เปรียบเสมือนแผนที่ที่จะช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายทางการเงิน รวมถึงการไปสู่อิสรภาพทางการเงิน นอกจากนี้การวางแผนการเงินยังช่วยให้เรารู้สถานะทางการเงินของตัวเอง และรู้วิธีวางเงินให้ถูกที่ ให้เงินทำงานสร้างความมั่งคั่ง มีเงินเพียงพอในตอนเกษียณ โดยมี 4 วิธีง่าย ๆ ดังนี้ครับ
1. จ่ายดอกเบี้ยลดลง จ่ายต่อเดือนง่ายขึ้น
การทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย เหมือนเป็นเรื่องพื้นฐานง่าย ๆ แต่การรู้สถานะการเงิน รวมถึงไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายทำให้เรารู้ว่าเรามีรายรับมากกว่ารายจ่าย หรือ รายจ่ายมากกว่ารายรับ มีเงินเก็บมากน้อยแค่ไหน
2. กำหนดเป้าหมาย
หลังจากที่เราสำรวจรายรับ-รายจ่ายในแต่ละเดือนแล้ว การกำหนดเป้าหมายให้มีทิศทางที่แน่นอนก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน โดยต้องกำหนดระยะเวลา ควรมีทั้งเป้าหมายระยะสั้น กลาง และยาว
3. แบ่งสัดส่วนเงินเก็บ

อีกสิ่งที่สำคัญเลย คือ “เก็บก่อนใช้” และควรแบ่งสัดส่วนเงินเก็บเป็น 4 หลัก ๆ ด้วยกัน
ส่วนที่ 1 ค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในแต่ละเดือน (60%)
ส่วนที่ 2 เงินสำหรับใช้จ่ายเพิ่มความสุขให้กับตัวเอง (20%)
ส่วนที่ 3 เงินออมเพื่อการลงทุน (10%)
ส่วนที่ 4 เงินออมเผื่อฉุกเฉิน (10%)

4. หมั่นศึกษาเรื่องการลงทุน และปรับเปลี่ยนแผนการเงินเป็นประจำ
การทบทวนแผนการเงินช่วยให้เราประเมินได้ว่าแผนการเงินที่วางไว้ผลตอบแทนได้รับตามที่ตั้งเป้าหมายหรือไม่ ควรปรับการลงทุนให้เหมาะกับสถานการณ์ และควรปรับให้เหมาะกับความสามารถในการรับความเสี่ยงในช่วงนั้น ๆ
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว หลายคนอาจกำลังสงสัยว่าแล้วถ้าเรามีเงินเดือนเท่านี้ ควรจะต้องวางแผนเก็บเงินเท่าไหร่มาดูตัวอย่างการคำนวณกันเลยครับ

” เงินเดือน 25,000 บาท “

ต้องมีค่าใช้จ่ายประจำไม่เกิน  25,000 x 0.60 = 15,000 บาท
เงินสำหรับใช้จ่ายตามใจ      25,000 x 0.20 = 5,000 บาท
เงินออมเพื่อการลงทุน        25,000 x 0.10 = 2,500 บาท
เงินออมเผื่อฉุกเฉิน           25,000 x 0.10 = 2,500 บาท

เมื่อเรามีแผนการเงินที่ดี ก็ช่วยให้เรามีเงินไปโปะบ้านในแต่ละเดือนได้มากขึ้น และการรีไฟแนนซ์บ้านถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายทางการเงินที่วางไว้ เพราะการรีไฟแนนซ์บ้านจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน ทั้งการที่ดอกอัตราดอกเบี้ยลดลงทำให้เราปิดบ้านได้ไวขึ้น ประหยัดดอกเบี้ยหลักแสนหลักล้าน ให้เราเอามาลงทุนแทนที่จะเอาไปจ่ายดอกเบี้ยครับ

รีไฟแนนซ์บ้าน คืออะไร?

การรีไฟแนนซ์บ้าน คือ การกู้สินเชื่อกับทางธนาคาร หรือสถาบันการเงินแห่งใหม่เพื่อนำมาปิดสัญญาสินเชื่อเดิม โดยมีเงื่อนไขที่ดีกว่าและลดดอกเบี้ยบ้านได้มากกว่าการผ่อนชำระตามสัญญาแบบปกติกับธนาคารเดิม

รีไฟแนนซ์บ้านช่วยทำให้การลงทุนเติบโตขึ้นได้อย่างไร?

การผ่อนชำระหนี้บ้านตามสัญญาโดยที่เราไม่ทำการรีไฟแนนซ์บ้านเลยจะทำให้เสียสิทธิประโยชน์ในการลดอัตราดอกเบี้ยไปกว่า 3 เท่าเลยทีเดียว เพราะการรีไฟแนนซ์ทุก ๆ 3 ปี ช่วยลดอัตราดอกเบี้ยไปกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบกับการผ่อนชำระตามสัญญาแบบปกติ เพื่อให้เพื่อน ๆ เห็นภาพชัดยิ่งขึ้นนะครับว่าการรีไฟแนนซ์ ช่วยทำให้การลงทุนเติบโตขึ้นได้อย่างไร
มาดูตัวอย่างการคำนวณกันเลยครับ

” นาย A ผ่อนบ้านราคา 2 ล้านบาทเป็นเวลา 20 ปี รวมดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญาเป็นเงิน 2.5 ล้านบาท ”
เท่ากับว่า 2,000,000 บาท (เงินต้น) + 2,500,000 บาท (ดอกเบี้ย) = 4,500,000 บาท คือจำนวนเงินทั้งหมดที่ต้องผ่อน 

หลังจากที่ผ่อนมาครบ 3 ปีแรก ซึ่งหมดช่วงอัตราดอกเบี้ยแบบโปรโมชันไปแล้วจึงตัดสินใจรีไฟแนนซ์
โดยเลือกระยะเวลาการผ่อนตามสัญญาเดิมเท่ากับคงเหลือ 17 ปี ทำให้ยอดทั้งหมดที่ต้องผ่อนเหลือเพียง 3,750,000 บาท 

จากตัวอย่าง เพื่อน ๆ คงเห็นกันแล้วว่าการรีไฟแนนซ์ช่วยให้เราประหยัดเงินเป็นหลักแสน โดยที่เราไม่ต้องไปลงทุน หรือทำงานเสริมเพื่อให้ได้เงินตรงนี้กลับมาเลย แถมเสริมสภาพคล่อง และช่วยให้เรามีเงินเก็บเพิ่มมากขึ้นด้วย และที่สำคัญการรีไฟแนนซ์บ้านยังทำได้ทุกๆ 3 ปีด้วย นั้นหมายความว่าก็จะช่วยลดดอกเบี้ยเราได้ตลอด

รีไฟแนนซ์บ้านช่วยลดดอกเบี้ยบ้านให้ต่ำลง

ลูกค้าที่มีบ้านส่วนใหญ่จะต้องเป็นคนที่มีเครดิตดีประมาณหนึ่งถึงจะสามารถกู้ซื้อบ้านได้ ซึ่งคนกลุ่มนี้ก็เป็นคนที่หลายๆ ธนาคารต้องการนั้นก็เท่ากับว่าเขาจึงมีข้อเสนอมพิเศษ เช่น การลดอัตราดอกเบี้ย ลดยอดผ่อน ฟรีค่าใช้จ่ายในการโอนบ้านต่างๆ เพื่อดึงให้เราไปอยู่กับเขานั้นเองครับ

ช่วยลดระยะเวลาในการขอผ่อนสินเชื่อบ้าน

ยิ่งระยะเวลาในการกู้สินเชื่อยาว เท่ากับว่ายิ่งต้องเสียดอกเบี้ยเยอะเช่นกัน โดยปกติแล้วการรีไฟแนนซ์บ้านช่วยให้ผ่อนหมดได้ไวขึ้นจากการที่ดอกเบี้ยลดลง เงินที่เราผ่อนไปทุกเดือนไปปิดเงินต้นได้มากขึ้นนั้นเอง

ช่วยทำให้มีเงินออมมากขึ้น

การที่อัตราดอกเบี้ยถูกลงจะทำให้ยอดผ่อนต่อเดือนถูกลงไปด้วย ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายต่อเดือน เพิ่มสภาพคล่อง และยิ่งในกรณีที่รีไฟแนนซ์โดยไม่ขอวงเงินเพิ่มและผ่อนในระยะเวลาเท่าเดิม จะสามารถลดงวดผ่อนได้ไวยิ่งขึ้นไปอีก ช่วยให้เรามีกระแสเงินสด สามารถนำไปลงทุนต่อยอดในด้านอื่น ๆ ได้

ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์บ้านใช้เวลานานไหม?

โดยปกติแล้วการรีไฟแนนซ์บ้านจะใช้ระยะเวลาประมาณ 2 เดือน แต่หากเราทำผ่าน www.refinn.com ที่เขาจะมีทีมงานในการคอยช่วยติดตามผลให้นั้นก็จะใช้ระยะเวลาประมาณ 1 – 1 เดือนครึ่งครับ ซึ่งจะมีขั้นตอนตั้งแต่ การสมัคร การตรวจคุณสมบัติผู้ขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน การประเมินบ้าน ไปจนถึงการจดจำนองกับธนาคารใหม่ครับ

รีไฟแนนซ์บ้านต่างกับการ Retention อย่างไร?

ทั้งสองวิธีถือเป็นเคล็ดลับในการผ่อนบ้านให้ได้ดอกเบี้ยถูก และช่วยประหยัดเงินไปได้เยอะเหมือนกัน แต่ความแตกต่างอยู่ที่การ Retention จะสะดวกสบายกว่า เพราะเป็นการดำเนินการกับธนาคาร หรือสถาบันการเงินเดิม ซึ่งมีข้อมูล และเอกสารเดิมอยู่แล้ว บางที่แค่ไปทำเรื่องที่สาขา แต่บางธนาคารอาจมีการยื่นเอกสารบางอย่างเพิ่ม ซึ่งการ Retention จึงทำให้ระยะเวลาในการพิจารณาไม่นาน แต่การ Retention ส่วนใหญ่จะลดดอกเบี้ยให้ไม่เยอะ เมื่อเทียบกับการรีไฟแนนซ์ ทีนี้เราอาจต้องมาคำนวณกันดูครับว่าแบบไหนจะคุ้มกับเรามากกว่ากัน

วิธีการรีไฟแนนซ์ ให้ได้ประโยชน์สูงสุด

ก่อนตัดสินใจทำการรีไฟแนนซ์บ้าน ผู้กู้ควรพิจารณาเลือกเงื่อนไขที่ดีที่สุด และควรศึกษารายละเอียด รวมถึงข้อดี ข้อเสียในการรีไฟแนนซ์ เพื่อให้การรีไฟแนนซ์เกิดประโยชน์สูงสุด วันนี้ผมมีเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ มาฝากเพื่อน ๆ กันครับ
  1. วางแผนและกำหนดวัตถุประสงค์ในการรีไฟแนนซ์ครั้งนี้ให้ชัดเจน
    เช่น การลดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยรายเดือน ลดดอกเบี้ย ลดดอกเบี้ยบ้านและขอวงเงินกู้เพิ่ม เป็นต้น
  2. เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้าน
    ควรเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านจากหลายแหล่ง เพราะอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลงจะช่วยให้จำนวนเงินในการผ่อนชำระในแต่ละเดือนถูกลง ซึ่งจะมีผลต่อค่าใช้จ่ายรวมของคุณในระยะยาว อีกทั้งยังช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินได้อีกด้วย
  3. ตรวจสอบค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์
    พิจารณาค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการรีไฟแนนซ์ เช่น ค่าปรับ, ค่าธรรมเนียม, ค่าประเมินอสังหาริมทรัพย์, และค่าอื่นๆ ให้รวมเข้ากับยอดสินเชื่อที่จะกู้เพื่อคำนวณว่าจะได้ประโยชน์จริงหรือไม่ 
  4. ตรวจสอบเงื่อนไขอื่น ๆ
    เช่น ระยะเวลาผ่อนชำระ, ประเภทของสินเชื่อ, หรือข้อจำกัดอื่น ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเงื่อนไขเหล่านี้เหมาะสมตรงกับความต้องการ หรือวัตถุประสงค์ในการรีไฟแนนซ์
การรีไฟแนนซ์ควรพิจารณาทั้งประโยชน์และค่าใช้จ่ายเพื่อให้เงื่อนไขเป็นไปตามความต้องการในการขอรีไฟแนนซ์และคุ้มค่ากับการลงทุน หากเพื่อน ๆ ไม่แน่ใจว่าจะทำการรีไฟแนนซ์มีขั้นตอนยังไง รีไฟแนนซ์ยังไงให้คุ้มค่าที่สุด สามารถพูดคุยปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญอย่าง Refinn ได้เลยครับ นอกจากจะได้โปรโมชันที่คุ้มค่าชัวร์แล้ว ยังมีคนคอยช่วยดูแลติดตามการดำเนินการแบบไม่เสียค่าใช้จ่ายอีกด้วยครับ

ค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์บ้าน

สำหรับการรีไฟแนนซ์บ้านนั้นอาจจะมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ แต่เมื่อเทียบกับดอกเบี้ยที่ลดลงแล้วส่วนใหญ่ก็ยังจะคุ้มค่ากว่า ซึ่งค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นมี 3 ส่วนใหญ่ๆ คือ
  • ค่าธรรมเนียมในการจำนอง ประมาณ 1% ของราคาประเมิน ในส่วนนี้หลายธนาคารมีโปรโมชันฟรีค่าจดจำนอง หรือ ช่วยออกค่าจดจำนองให้ครึ่งหนึ่งครับ
  • ค่าประเมินหลักประกัน ประมาณ 2,000 – 3,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดบ้าน แต่ในปัจจุบันค่าประเมินหลักประกันธนาคารไม่ค่อยเก็บแล้วครับ
  • ค่าอากรแสตมป์ ประมาณ 0.05% ของวงเงินกู้ใหม่

สรุปรีไฟแนนซ์บ้านดีต่อการลงทุนจริงไหม?

อย่างที่ผมได้กล่าวไปข้างต้นแล้วนะครับว่า การรีไฟแนนซ์ทุก ๆ 3 ปี ช่วยลดอัตราดอกเบี้ยไปกว่า 3 เท่านั้นหมายถึงจำนวนเงินที่เราจะได้คืนมาโดยที่ไม่ต้องหารายได้เพิ่มเลยครับ ซึ่งอาจจะเป็นหลักล้านเลยก็ได้ และหากเรานำเงินส่วนนี้ไปลงทุนต่อก็อาจจะช่วยให้งอกเงยขึ้นได้อีก ซึ่งจะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยนะครับว่าการรีไฟแนนซ์ถือเป็นตัวช่วยที่ขาดไม่ได้เลยโดยเฉพาะในการผ่อนระยะยาวอย่างการผ่อนบ้าน แต่ถึงอย่างไรก็ตามควรศึกษาข้อมูลการรีไฟแนนซ์ให้เข้าใจ และหาโปรโมชันที่ตอบโจทย์กับการผ่อนบ้าน รวมถึงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายของเรามากที่สุด แน่นอนว่าการมีผู้เชี่ยวชาญอย่าง Refinn คอยแนะนำ เปรียบเทียบ คัดโปรโมชัน และช่วยดำเนินการอยู่เคียงข้างเราตลอดเวลา ทำให้เราอุ่นใจกว่าไม่ต้องกลัวว่าจะพลาดโปรโมชันดี ๆ ไม่ต้องมาปวดหัวกับการเปรียบเทียบข้อมูลด้วยตัวเอง Refinn เหมือนเป็นเพื่อนคู่คิดที่ช่วยให้เราประหยัดเวลา แถมประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการหลาย ๆ อย่างอีกด้วย