Thailand Web Stat

SCBAM : Morning Update ประจำวันที่ 30 สิงหาคม 2566

📍Market update📍

📊 Major Equity Indices: S&P500+1.45%, NASDAQ+1.74%, STOXX600+0.97%, Nikkei225+0.18%, HSCEI+2.25%, CSI300+1.00%, KOSPI+0.34%, NIFTY50+0.19%, SET+0.37%, VNINDEX+0.23%

📊 Sector Return: Consumer Discretionary-XLY(+2.50%),Communication Services-XLC(+2.22%), Technology-XLK(+2.00%), Consumer Staples-XLP(+0.36%), Energy-XLE(+0.27%)

📊 USBY2Y 4.89%, USBY10Y 4.12%, WTI $81.16/bbl, Gold $1,937.54/oz, DXY 103.53

📰 ตลาดหุ้นสหรัฐฯและยุโรปปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ นำโดยกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวขึ้นได้โดดเด่น ในขณะที่ Bond Yield 10 ปีสหรัฐฯปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันหลังจากปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 16 ปีไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ในขณะที่สินค้าโภคภัณฑ์อย่าง ทองคำ และ น้ำมันต่างปรับตัวขึ้นได้เช่นเดียวกัน

📰 สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลง 338,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 8.827 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2564 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 9.465 ล้านตำแหน่ง

📰 บริษัท Best Buy เปิดเผยกำไรและรายได้สูงกว่าคาดใน Q 2/2566 บริษัทมีกำไรที่ระดับ 1.22 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.06 ดอลลาร์/หุ้น นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ที่ระดับ 9.58 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.52 พันล้านดอลลาร์

📰 นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.3% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 3.0% ในเดือนมิ.ย. ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าปรับตัวขึ้น 4.2% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 4.1% ในเดือนมิ.ย.

⏭️  ตลาดหุ้นสหรัฐฯยังคงปรับตัวขึ้นได้ดี โดยในระยะสั้น price momentum ยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน ได้รับปัจจัยสนับสนุนเชิงบวกจากการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดีกว่าคาด ในหลายกลุ่มอุตสาหกรรมเริ่มตั้งเเต่กลุ่ม เทคโนโลยี อย่างบริษัท Nvidia หรือกลุ่มค้าปลีกอย่างบริษัท Best Buy เป็นต้น อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นในปัจจุบันยังขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่อื่นๆ อีกทั้งยังคงพึ่งพาปัจจัยเชิงบวกจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนเป็นหลัก ซึ่งเเนวโน้มในอนาคตหากทำออกมาได้ไม่เป็นไปตามคาด อาจทำให้ตลาดหุ้นเกิดความผันผวนได้ ด้านคำเเนะนำเรายังคงมุมมองเชิงบวกในระยะยาวยาวจากเเนวโน้มการฟื้นตัวที่ดีของเศรษฐกิจ เเละผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน เเนะนำทยอยสะสมเมื่อราคาปรับย่อตัว

📰 ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเยอรมนีปรับตัวลงในเดือนก.ย.สู่ระดับ -25.5 จากระดับที่มีการปรับค่าแล้วที่ -24.6 ของเดือนส.ค. และแย่กว่าระดับที่นักเศรษฐศาสตร์ในผลสำรวจของเดอะ Wal Street Journal คาดไว้ที่ -25.0 อันเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ผู้บริโภคในเยอรมนีมีมุมมองในแง่ลบต่อเศรษฐกิจของประเทศและต่ออนาคตทางการเงินของตน

📰  ตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานปรับตัวขึ้นได้ทั้งหมด นำโดยตลาดหุ้นจีน หลังจากที่ตลาดยังคนขานรับข่าวดีเกี่ยวกับการปรับลดภาษีอากรแสตมป์ (Stamp Duty) สำหรับการซื้อขายหุ้นในตลาด โดยมีเป้าหมายที่จะดึงดูดนักลงทุนเข้าสู่ตลาดหุ้นจีนซึ่งกำลังอ่อนตัวลงอย่างมาก

📰 เมื่อวานนี้นายหลิว คุน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของจีน และเจิ้ง ซานจี้ ประธานคณะกรรมการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ (NDRC)  จีนให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนด้านนโยบายและเร่งการใช้จ่ายของรัฐบาลมากขึ้น เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจกำลังเผชิญกับภาวะตึงเครียด

📰 รัฐบาลจีนจะขยายระยะเวลาการใช้นโยบายสิทธิพิเศษทางภาษีสำหรับชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศจีนออกไปจนถึงสิ้นปี 2570 โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือบริษัทต่างชาติที่เผชิญกับความยากลำบากในการหาแรงงานที่มีความสามารถหลังช่วงโควิด

⏭️  ระยะสั้นเราเริ่มเห็นการฟื้นตัวของราคาหุ้นจีนต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึง การตอบรับเชิงบวกต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเเละสร้างความเชื่อมั่นเเก่นักลงทุนทั้งจากภาครัฐเเละภาคการเงินที่ประกาศออกมาล่าสุด อย่างไรก็ดีเรายังคงต้องรอติดตามการรายงานดัชนีเศรษฐกิจที่สำคัญอีกครั้ง เพื่อยืนยันว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกไป ส่งผลเป็นบวกและช่วยให้เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวได้จริง

📰 เกาหลีใต้เปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.ค.เพิ่มสูงขึ้น 5.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากอุปสงค์ด้านอาหารเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงวันหยุดฤดูร้อน

 

🔰 Outlook & Implication

✅️ ตลาดหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนระยะกลาง 3-6 เดือน หลังรายงานงบ 2Q23 ที่ออกมาส่วนใหญ่ดีกว่าคาดและมีโอกาสถูกปรับคาดการณ์กำไรขึ้นต่อในอนาคต

✅️ กรอบการลงทุนระยะกลาง 3-6 เดือนเรามองโอกาสในการทยอยสะสมช่วงตลาดปรับตัวลงในกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ และทั่วโลก (SCBNDQ/ SCBDIGI) จากแนวโน้มเงินเฟ้อชะลอตัวลง (Disinflation) หนุนวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นใกล้จบรอบและ AI Boom หนุนคาดการณ์กำไรเติบโต

✅️ กรอบการลงทุนระยะกลาง 3-6 เดือนกลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวและมีการเติบโตที่น่าสนใจในระยะกลาง-ยาว 1) SCBTRAVEL กองทุนที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนและช่วง High season การท่องเที่ยวในฝั่งตะวันตกคาดช่วยหนุนการเติบโตเชิงฤดูกาล 2) SCBEV  กองทุนที่ได้ประโยชน์จากมาตรการสนับสนุน EV รอบใหม่ของจีนและ Inflation Reduction Act ของสหรัฐฯ ที่ยังดำรงอยู่ต่อไปหลังผ่านการเพิ่มเพดานหนี้

 

แหล่งที่มา : SCBAM

แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก