🟣Morning Update by SCBAM

📍Market update📍

📊 Major Equity Indices: S&P500+0.22%, NASDAQ+0.32%, STOXX600+0.77%, Nikkei225+1.62%, HSCEI-2.44%, CSI300-1.56%, KOSPI-0.34%, SET-0.91%, VNINDEX+0.12%, TH Reits+0.31%, SG Reits+0.79%

📊 Sector Return: Industrial-XLI(+0.77%), Financial-XLF(+0.47%), Technology-XLK(+0.44%), Energy-XLE(+0.37%), Consumer Staples-XLP(-0.49%), Utilities-XLU(-0.51%)

📊 USBY2Y 4.39%, USBY10Y 4.11%, WTI $75.19/bbl, Gold $2,021.70/oz, DXY 103.33

📰 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยได้แรงหนุนจากการรายผลประกอบการไตรมาส 4/2566 ของบริษัทจดทะเบียนที่ส่วนใหญ่ออกมาสูงกว่าคาด และได้แรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง

📰 ธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาแอตแลนตา เปิดเผยแบบจำลองคาดกาณ์ GDPNow ล่าสุด แสดงคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯในไตรมาส 4/2566 ขยายตัว 2.4%QoQ เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดการณ์ขยายตัว 2.2%QoQ

⏭️ ภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้ตลาดเริ่มปรับความคาดหวังว่า Fed จะเริ่มลดดอกเบี้ยในเดือนพ.ค. จากเดิมที่คาดว่าจะลดในเดือนมี.ค. ซึ่งการปรับความคาดหวังดังกล่าวยังคงเป็นความเสี่ยงกดดันตลาดหุ้นสหรัฐฯในระยะถัดไปได้ ทั้งนี้ในภาพระยะสั้น นักลงทุนจะหันมาจับตาการรายงานงบการเงิน และดัชนีเศรษฐกิจมากขึ้น เนื่องจาก เริ่มเข้าสู่ช่วง Blackout Period ของ Fed โดยเราคาดว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯจะยังคงมีโมเมนตัมเชิงบวกจากกระแส AI ต่อเนื่อง หากการประกาศงบของกลุ่มเทคโนโลยีออกมาดีกว่าคาด

📰 United Airlines รายงานรายได้และกำไรไตรมาส 4/2566 ดีกว่าตลาดคาด จากการควบคุมต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้ดี หลังจากเครื่องบินโบอิ้ง 737 Max ถูกระงับการบิน ทั้งนี้บริษัทคาดว่าในไตรมาส 1 ปีนี้ บริษัทจะขาดทุนสูงกว่าตลาดคาด หากเครื่องบิน Max9 ยังคงถูกระงับการบินจนถึงวันที่ 31 ม.ค.

📰 ตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานปรับตัวบวกลบสลับกันไป โดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังคงปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลงแรง จากความกังวลเศรษฐกิจชะลอตัวและขาดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

📰 ธนาคารกลางจีนมีมติคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปี ที่ระดับ 3.45% และ 5 ปี ที่ระดับ 4.20% ไว้เท่าเดิมตามตลาดคาด หลังจากที่มีการคงอัตราดอกเบี้ย MLF ไว้เท่าเดิม

⏭️ การที่ธนาคารจีนยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม สวนทางกับภาพเศรษฐกิจที่เกิดภาวะเงินฝืดและต้องการการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาจเป็นการส่งสัญญาณว่าการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมอาจจะยังไม่มีความจำเป็นในเร็วๆนี้ ส่งผลให้เศรษฐกิจจีนยังคงมีความเสี่ยงชะลอตัวลง หรือ ฟื้นตัวไม่ชัดเจน เราจึงยังคงมุมมองเป็นกลางในตลาดหุ้นจีน แนะนำคงน้ำหนักการลงทุน

📰 มูดีส์ ปรับลดแนวโน้มเครดิตเอเชีย-แปซิฟิก ลงสู่มุมมอง “เชิงลบ” จากการเติบโตที่ชะลอตัวลงของจีน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั้งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกันในห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งสภาพคล่องที่คาดว่าจะตึงตัวขึ้น และความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ขยายตัวขึ้น

⏭️ ถึงแม้ว่าภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกจะถูกปรับอันดับเครดิตลง โดยสาเหตุหลักจากเศรษฐกิจจีนที่ซบเซา แต่เรามองว่า ประเทศในภูมิภาคเอเชียที่ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิตออกจากจีนเพื่อลดความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ยังคงเป็นประเทศที่น่าสนใจเข้าลงทุน เช่น เวียดนาม ซึ่งเรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นเวียดนาม แนะนำทยอยสะสม รวมทั้งประเทศที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งโดยแรงหนุนจากอุปสงค์ในประเทศ เช่น อินเดีย ซึ่งเรามีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนระยะกลาง-ยาว ในตลาดหุ้นอินเดีย แนะนำเข้าสะสมเมื่อตลาดย่อตัว

🔰 Outlook & Implication

✅️ สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงปานกลาง-สูงแนะนำลงทุนกองทุนตราสารหนี้โลก SCBINCA ที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากราคาตราสารหนี้ที่มักปรับตัวขึ้นต่อเนื่องหลัง Fed จบรอบดอกเบี้ยขาขึ้น, อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ที่อยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีและสำหรับกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน โดยเฉพาะยามที่ความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มสูงขึ้นในปีหน้า

✅️ ตลาดหุ้นไทยเรามีการปรับนํ้าหนักจากทยอยสะสมเป็นคงนํ้าหนักก่อนในช่วงสั้นหลัง SET Index หลุดระดับ 1,400 จุด ทำให้ภาพทางเทคนิคอ่อนแรงและอาจมีความเสี่ยงขาลงเพิ่มเติม จึงแนะนำให้ wait & see สำหรับนักลงทุนที่คาดหวังผลตอบแทนระยะสั้น แต่สำหรับนักลงทุนที่คาดหวังผลตอบแทนระยะยาวและทนต่อความผันผวนสูงได้ มองเป็นโอกาสทยอยสะสมลงทุน จากแนวโน้มเศรษฐกิจและกำไรที่คาดว่าจะฟื้นตัว หนุนการปรับขึ้นของตลาดในระยะถัดไป

✅️ ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปรับตัวลงมาต่อเนื่องตั้งแต่สัปดาห์ก่อน แต่เรามองว่าดัชนี KOSPI เข้าใกล้แนวรับสำคัญแถวระดับ 2,400 จุด ซึ่งหากลงมาไม่หลุดแนวรับดังกล่าวมีโอกาสฟื้นตัวกลับ ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานระยะ 6 เดือนข้างหน้ายังน่าสนใจจาก story วัฏจักรกลุ่ม Consumer Semi ผ่านจุดตํ่าสุดไปแล้วในปีก่อนและคาดจะฟื้นตัวต่อในปีนี้ โดยที่มีกระแส EdgeAI ช่วยเร่งรอบการเปลี่ยนเครื่อง (replacement cycle) กองทุนแนะนำ SCBKEQTG

แหล่งที่มา : SCBAM

แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก