Thailand Web Stat

SCBAM : Morning Update ประจำวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567

🟣Morning Update by SCBAM

📍Market update📍

📊 Major Equity Indices: STOXX600+0.16%, Nikkei225-0.04%, HSCEI-1.33%, CSI300+1.16%, KOSPI+1.19%, NIFTY+0.37%, SET+0.08%, VNINDEX+1.26%, TH Reits+0.07%, SG Reits-0.91%

📊 Gold $2,017.21/oz, DXY 104.29

📰 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการเนื่องในวันประธานาธิบดี ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นเล็กน้อย นำโดยกลุ่มหุ้นสื่อสารและการแพทย์ โดยบริษัท AstraZeneca พุ่งขึ้นกว่า 3% หลังผลการทดสอบยา Tagrisso เบื้องต้น สามารถชะลอการลุกลามของมะเร็งปอดได้

⏭️ ตลาดฟิวเจอร์หุ้นสหรัฐฯ ค่อนข้างทรงตัว เนื่องจากตลาดขาดปัจจัยหนุนใหม่ หลังจาก S&P500 ทำจุดสูงสุดใหม่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รวมทั้งนักลงทุนรอติดตามการรายงานผลประกอบการของ Nvidia ในวันพุธ ซึ่งอาจจะเป็นแรงหนุนให้กับตลาดหุ้น หากการรายงานงบและบริษัทให้ guidance ที่ดีกว่าคาด

📰 Softbank Group ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ ARM บริษัทผู้ออกแบบชิป กำลังพิจารณาระดมทุนกว่า

1 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อเปิดบริษัทร่วมทุนในการผลิตและออกแบบ semiconductor สำหรับเทคโนโลยี AI เพื่อแข่งขันกับ Nvidia

📰 ตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานปรับตัวบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยตลาดหุ้นจีน CSI300 กลับมาฟื้นตัว หนุนจากยอดการเดินทางและการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีนปรับตัวเพิ่มขึ้น

📰 ธนาคารกลางจีนประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีไว้ที่ 2.5% รวมทั้งมีการอัดฉีดสภาพคล่องจำนวน 5 แสนล้านหยวน เข้าสู่ระบบธนาคารผ่านทางโครงการ MLF และข้อตกลง reverse repo เพื่อเสริมสภาพคล่อง

📰 ยอดการเดินทางท่องเที่ยวทั่วประเทศจีนในช่วงวันหยุดตรุษจีนเพิ่มขึ้น 19%เมื่อเทียบกับปี 2562 ขณะที่ยอดการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวในจีนเพิ่มขึ้นราว 8%เมื่อเทียบกับปี 2562 ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าปีที่แล้ว

⏭️ ยอดการเดินทางและการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่เพิ่มสูงขึ้นจากปีก่อน เป็นสัญญาณที่ดีบ่งชี้ว่าการบริโภคในจีนกำลังฟื้นตัว ประกอบกับนายกฯจีนเรียกร้องให้เร่งออกมาตรการที่แข็งแกร่งและปฏิบัติได้จริง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจ เรามองว่าตลาดหุ้นจีนอาจมีการฟื้นตัวได้ในระยะสั้น จากความคาดหวังการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ทั้งนี้อาจพิจารณาเข้าสะสมลงทุน หากเศรษฐกิจจีนมีการฟื้นตัวที่ชัดเจน หรือ มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ตรงจุด

📰 สศช. รายงาน GDP 4Q23 ของไทย ขยายตัว +1.7%YoY แต่หดตัวลง -0.6%QoQ ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาดที่ +2.6%YoY, -0.1%QoQ จากการใช้จ่ายภาครัฐที่ปรับตัวลง ตามการเบิกจ่ายงบประมาณที่ล่าช้า ในขณะที่การส่งออกและการบริโภคภายในประเทศยังขยายตัวเป็นบวก ส่งผลให้ สศช. ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 2567 ลงจาก 2.7-3.7% มาที่ 2.2-3.2%

⏭️ เรามองว่าตลาดรับรู้ตัวเลขดังกล่าวไปแล้ว เห็นได้จากตลาดไม่ได้ตอบรับในเชิงลบ โดยคาดหวังว่าเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้ากว่าคาด จะเป็นแรงกระตุ้นให้แบงค์ชาติปรับลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น และมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม จึงมีมุมมองเป็นกลางในตลาดหุ้นไทย คาดว่า ในระยะสั้นตลาดยังแกว่งตัวผันผวนไร้ทิศทาง โดยยังไม่มีปัจจัยขับเคลื่อนใหม่ ทั้งนี้เราคาดว่า SET Index จะมีทิศทางเป็นบวกมากขึ้นในปีนี้ จาก Valuation ของตลาดหุ้นที่ไม่แพง , เศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนมีแนวโน้มเติบโตดีขึ้นในปีนี้

🔰 Outlook & Implication

✅️ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปัจจุบันยังคงมี Sentiment เชิงบวกจากเเนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังคงเติบโต ภาคแรงงานที่ยังแข็งแกร่ง เงินเฟ้อที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงต่อเนื่อง ความชัดเจนของการปรับลดดอกเบี้ย Fed มีมากขึ้น รวมถึงงบการเงินที่ยังคงทำได้ดีกว่าคาดการณ์ แนะนำกองทุนดัชนีหุ้นสหรัฐฯ SCBS&P500A, SCBNDQ(A) ส่วน Active Fund เเนะนำทยอยสะสมกอง SCBDIGI ที่มีการถือครองที่หลากหลาย ผสมผสานทั้ง Big Tech และหุุ้น Tech ขนาดกลาง-เล็ก อีกทั้งยังเปิดโอกาสในการเติบโตจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว เเละการมาของกระเเส AI Spreading อีกด้วย

✅️สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงปานกลาง-สูงแนะนำลงทุนกองทุนตราสารหนี้โลก SCBINCA ที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากราคาตราสารหนี้ที่มักปรับตัวขึ้นต่อเนื่องหลัง Fed จบรอบดอกเบี้ยขาขึ้น, อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ที่อยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีและสำหรับกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน โดยเฉพาะยามที่ความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มสูงขึ้น

 

แหล่งที่มา : SCBAM

แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก