Thailand Web Stat

SCBAM : Morning Update ประจำวันที่ 13 ธันวาคม 2566

🟣Morning Update by SCBAM

📍Market update📍

📊 Major Equity Indices: S&P500+0.46%, NASDAQ+0.70%, STOXX600-0.21%, Nikkei225+0.16%, HSCEI+1.48%, CSI300+0.21%, KOSPI+0.39%, NIFTY-0.43%, SET-0.51%, VNINDEX+0.19%, TH Reits+0.25%, SG Reits+0.39%

📊 Sector Return: Financial-XLF(+0.72%), Technology-XLK(+0.66%), Materials-XLB(+0.58%), Real Estate-XLRE(-0.03%), Utilities-XLU(-0.41%), Energy-XLE(-1.37%)

📊 USBY2Y 4.73%, USBY10Y 4.20%, WTI $68.61/bbl, Gold $1,979.54/oz, DXY 103.87

📰 ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้นได้ ภายหลังการรายงานดัชนี CPI และ Core CPI เมื่อเทียบเป็นรายปีออกมาเป็นไปตามคาด แต่ปรับขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบเป็นรายเดือน ในขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงชะลอการลงทุนเพื่อติดตามการประชุม Fed ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้เพื่อทราบกรอบทิศทางของเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และนโยบายการเงินในอนาคต

📰 รายงานอัตราเงินเฟ้อทั่วไปสหรัฐฯ (CPI) เดือนพ.ย.เมื่อเทียบรายปีออกมาตามคาดแต่ต่ำกว่าเดือนก่อนหน้า (3.1% vs 3.1% vs 3.2%YoY) เเต่เมื่อเทียบรายเดือนออกมาสูงกว่าคาดเเละเดือนก่อนหน้า (0.1% vs 0% vs 0%MoM) โดยมาจากราคานํ้ามันที่ปรับตัวลง เเละ ราคา shelter ที่เร่งตัวขึ้นเป็นหลัก

📰 เงินเฟ้อพื้นฐานสหรัฐฯ (Core CPI) เดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปีออกมาตามคาดและใกล้เคียงกับเดือนก่อน (4% vs 4% vs 4%YoY) เเละเมื่อเทียบรายเดือนออกมาตามคาดเเต่สูงกว่าเดือนก่อนหน้า (0.3% vs 0.3% vs 0.2%MoM) โดยมาจากราคา shelter ที่เร่งตัวขึ้นเป็นหลัก

📰 ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 98.4% ในการคาดการณ์ว่า Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 12-13 ธ.ค.2566 ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนพ.ค.2567

📰 สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดหลุดระดับ 69 ดอลลาร์ จากความกังวลต่ออุปสงค์ที่ซบเซา นอกจากนี้ นักลงทุนไม่มั่นใจต่อการปฏิบัติตามสัญญา ต่อมติของกลุ่ม OPEC+ ในการปรับลดกำลังการผลิต 2.2 ล้านบาร์เรล/วัน ใน Q1/67 ซึ่งเป็นไปในลักษณะของการสมัครใจมากกว่าภาคบังคับ

⏭️ รายงานดัชนี CPI และ Core CPI เทียบเป็นรายปีที่ออกมาตามคาดแต่ปรับขึ้นเมื่อเทียบเป็นรายเดือน จากการปรับตัวลงของราคาน้ำมันที่ถูก offset ด้วยการปรับขึ้นของราคา shelter สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาเงินเฟ้อที่ยังต้องการความชัดเจน และมาตรการทางการเงินที่เข้มงวดยังคงอยู่ต่อไปเพื่อควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบ target ที่ 2% ได้

📰 ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปิดบวกลบสลับกัน เนื่องจากปัจจุบันตลาดยังขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่ รวมถึงนักลงทุนส่วนใหญ่รอติดตามรการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯ และการประชุมของ Fed ในสัปดาห์นี้

📰 อินเดียเผยดัชนี CPI ล่าสุดเดือนพ.ย. เร่งตัวขึ้นสูงกว่าเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ (5.55%YoY vs 4.87%YoY) สาเหตุหลักมาจากการดีดตัวขึ้นของราคาอาหาร โดยดัชนี CPI ดังกล่าวอยู่สูงกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อของธนาคารกลางอินเดียที่ระดับ 4.0%

📰รัฐบาลเตรียมแนวทางจัดการหนี้ทั้งระบบ 10.3 ล้านราย ด้วยมาตรการ พักหนี้-ลดดอกเบี้ย-ปรับโครงสร้าง-ขยายเวลาผ่อนจ่าย แก่กลุ่มลูกหนี้ทั้ง 4 กลุ่มเปราะบาง

📰 ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมไทย เดือนพ.ย. อยู่ที่ระดับ 90.9 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 88.4 ในเดือนต.ค. โดยเป็นการปรับเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน และเพิ่มขึ้นทุกองค์ประกอบ ทั้งดัชนีฯ คำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการ และผลประกอบการ

🔰Outlook & Implication

✅️ระยะสั้นคาดตลาดอาจพักฐานหรือแกว่งตัวในกรอบ หลังตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นมาเร็วและแรง แต่เริ่มขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่ อย่างไรก็ตามเรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อภาพระยะกลาง 1-2 เดือน จากปัจจัยมหภาคเริ่มผ่อนคลายและสถิติในอดีตเชิงฤดูกาลสนับสนุนการฟื้นตัว

✅️สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงปานกลาง-สูงแนะนำลงทุนกองทุนตราสารหนี้โลก SCBINCA ที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากราคาตราสารหนี้ที่มักปรับตัวขึ้นต่อเนื่องหลัง Fed จบรอบดอกเบี้ยขาขึ้น, อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ที่อยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีและสำหรับกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน โดยเฉพาะยามที่ความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มสูงขึ้นในปีหน้า

✅️กลุ่มหุ้นคุณภาพสูงที่คาดว่าจะสามารถทนทานในสภาวะดอกเบี้ยสูงและช่วงปลายวัฏจักรเศรษฐกิจได้ดีกว่าตลาดโดยรวมได้แก่ SCBGQUAL, SCBPGF

✅️ตลาดหุ้นไทยถึงแม้จะปรับตัวลงแย่กว่าภูมิภาคและหุ้นทั่วโลกตลอดทั้งปี แต่กลับมองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมเพื่อลุ้นการฟื้นตัวในปีหน้าจากปัจจัยสนับสนุน 1) ทิศทางหลัง Fed จบรอบดอกเบี้ยขาขึ้นแนวโน้มค่าเงินบาทแข็งค่าและตลาดหุ้นไทยมักฟื้นตัวขึ้นได้ 2) แนวโน้มเศรษฐกิจขยายตัวสูงขึ้นจากปีนี้ สวนทางหลายประเทศทั่วโลกที่จะชะลอตัวลง 3) คาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนที่จะกลับมาขยายตัวขึ้นอีกครั้งในปีหน้า หลังจากปีนี้หดตัวติดลบ 4) ระดับมูลถูกกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว 10 ปี น่าสนใจลงทุน

 

แหล่งที่มา : SCBAM

แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก