🟣Morning Update by SCBAM

📍Market update📍

📊 Major Equity Indices: S&P500-0.07%, NASDAQ+0.004%, STOXX600-0.77%, Nikkei225+1.77%, HSCEI+1.35%, CSI300+0.57%, KOSPI-0.07%, NIFTY+0.13%, SET-0.37%, VNINDEX+0.06%, TH Reits-0.38%, SG Reits+1.43%

📊 Sector Return: Technology-XLK(+0.51%), Energy-XLE(+0.26%), Consumer Staples-XLP(-0.01%), Financial-XLF(-0.37%), Real Estate-XLRE(-0.93%), Utilities-XLU(-2.33%),

📊 USBY2Y 4.25%, USBY10Y 3.97%, WTI $72.02/bbl, Gold $2,028.91/oz, DXY 102.29

📰 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดค่อนข้างทรงตัวโดยดัชนีปรับตัวลงแรงโดยเฉพาะกลุ่มที่อ่อนไหวต่อแนวโน้มดอกเบี้ยอย่างกลุ่มหุ้นเติบโตสูงและกลุ่มหุ้นขนาดเล็กหลังรายงานเงินเฟ้อออกมาสูงกว่าคาด แต่ลงได้ไม่นานก็เห็นการฟื้นตัวกลับขึ้นมาสะท้อนถึงโมเมนตัมที่ค่อนข้างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นสหรัฐฯ

📰 รายงานอัตราเงินเฟ้อทั่วไปสหรัฐฯ (CPI) เดือนธ.ค.เมื่อเทียบรายปีออกมาสูงกว่าคาดและเดือนก่อน (3.4% vs 3.2% vs 3.1%YoY) เมื่อเทียบรายเดือนสูงกว่าคาดและเดือนก่อนหน้า (0.3% vs 0.2% vs 0.1%MoM) จาก Energy ที่หดตัวน้อยลงและ Goods ที่เริ่มหยุดลง โดยรวมถือว่า CPI เริ่มกลับมาเร่งตัวขึ้นและสูงกว่าตลาดคาด

📰 เงินเฟ้อพื้นฐานสหรัฐฯ (Core CPI) เดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปีออกมาสูงกว่าคาดแต่ยังตํ่ากว่าเดือนก่อน (3.9% vs 3.8% vs 4.0%YoY) เมื่อเทียบรายเดือนออกมาตามคาดและเท่าเดือนก่อนหน้า (0.3% vs 0.3% vs 0.3%MoM) จาก Shelter ที่ไม่ค่อยลงและเริ่มเร่งตัวในรายเดือน โดยรวมถือว่า Core CPI ยังอยู่ในทิศทางชะลอตัวลงแต่สูงกว่าคาดเล็กน้อย

📰 Initial Jobless Claims ออกมาตํ่ากว่าคาดและรอบก่อน (202k vs 210k vs 203k) สอดคล้องกับ Continue Jobless Claims ที่ออกมาตํ่ากว่าคาดและรอบก่อนเช่นกัน (1,834k vs 1,871k vs 1,868k) สะท้อนภาพการจ้างงานที่ชะลอตัวน้อยกว่าคาด

⏭️ รายงาน CPI และ Jobless claims ข้างต้นส่งสัญญาณลบต่อตลาด เพราะน่าจะทำให้ Fed ลดดอกเบี้ยเร็วและแรงมีความเป็นไปได้น้อยลง อย่างไรก็ตามความคาดหวังของนักลงทุนในการลดดอกเบี้ยดูจะไม่ได้ลดน้อยถอยลงแต่กลับเพิ่มขึ้นด้วยซํ้าสะท้อนผ่าน FedWatch Tool ที่ให้ความน่าจะเป็นการลดดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้นจาก 65% เป็น 73% ทั้งนี้ติดตามดัชนี PPI ซึ่งถือเป็นดัชนีชี้นำ CPI ได้ในระดับหนึ่ง โดยมีกำหนดรายงานในคืนนี้

📰 ตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานปรับตัวบวกลบสลับกันไป โดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังปรับตัวบวกโดดเด่นต่อเนื่องหลังทะลุทำจุดสูงสุดใหม่ ส่วนตลาดหุ้นจีนเริ่มเห็นการฟื้นตัวกลับขึ้นมาบ้างหลังปร้บตัวลงต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา

⏭️ สำหรับทิศทางตลาดหุ้นจีนในสัปดาห์หน้า แนะนำติดตามการเลือกตั้งไต้หวันในวันเสาร์ที่ 13 ม.ค. ถ้าหากพรรค KMT ซึ่งมีนโยบายค่อนข้าง pro จีน ชนะการเลือกตั้งอาจช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นจีนและไต้หวันฟื้นตัว สถิติในอดีตบ่งชี้ว่าหากพรรค KMT ชนะการเลือกตั้ง ตลาดหุ้นจีน MSCI China และตลาดหุ้นไต้หวัน TWSE มักปรับตัวบวกได้เฉลี่ยราว 10% ภายในเวลา 2 เดือนหลังการเลือกตั้ง

🔰Outlook & Implication

✅️สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงปานกลาง-สูงแนะนำลงทุนกองทุนตราสารหนี้โลก SCBINCA ที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากราคาตราสารหนี้ที่มักปรับตัวขึ้นต่อเนื่องหลัง Fed จบรอบดอกเบี้ยขาขึ้น, อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ที่อยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีและสำหรับกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน โดยเฉพาะยามที่ความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มสูงขึ้นในปีหน้า

✅️ตลาดหุ้นไทยถึงแม้จะปรับตัวลงแย่กว่าภูมิภาคและหุ้นทั่วโลกตลอดปี 2566 แต่กลับมองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมเพื่อลุ้นการฟื้นตัวในปี 2567 จากปัจจัยสนับสนุน 1) ทิศทางหลัง Fed จบรอบดอกเบี้ยขาขึ้นแนวโน้มค่าเงินบาทแข็งค่าและตลาดหุ้นไทยมักฟื้นตัวขึ้นได้ 2) แนวโน้มเศรษฐกิจขยายตัวสูงขึ้นจากปีนี้ สวนทางหลายประเทศทั่วโลกที่จะชะลอตัวลง 3) คาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนที่จะกลับมาขยายตัวขึ้นอีกครั้งในปี 2567 หลังจากหดตัวเมื่อปีที่ผ่านมา 4) ระดับมูลถูกกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว 10 ปี น่าสนใจลงทุน

แหล่งที่มา : SCBAM

แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก