🟣Morning Update by SCBAM

📊 Major Equity Indices: S&P500+1.12%, NASDAQ+1.54%, STOXX600+1.00%, Nikkei225-0.06%, HSCEI+3.49%, CSI300+0.23%, KOSPI+0.83%, NIFTY+0.01%, SET-0.04%, VNINDEX+0.77%, TH Reits+0.13%, SG Reits+0.14%

📊 Sector Return: Technology-XLK(+2.05%), Communication Services-XLC(+0.88%), Consumer Discretionary-XLY(+0.86%), Energy-XLE(-0.16%), Real Estate-XLRE(-0.25%), Utilities-XLU(-0.97%)

📊 USBY2Y 4.59%, USBY10Y 4.15%, WTI $77.56/bbl, Gold $2,158.34/oz, DXY 102.96

📰 ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้นได้โดดเด่นเมื่อคืนนี้ ด้วยเเรงหนุนจากการรีบาวด์ของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีท่ามกลางการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาดเล็กน้อย

📰 สหรัฐฯเปิดเผยดัชนีเงินเฟ้อ CPI ทั่วไปเดือนก.พ. เมื่อเทียบเป็นรายปีปรับตัวขึ้นสูงกว่าที่คาด เเละสูงกว่าเดือนก่อนที่ (3.2% vs 3.1% vs 3.1%) เเละเมื่อเทียบเป็นรายเดือนปรับตัวขึ้นใกล้เคียงกับที่คาดที่ (0.4% vs 0.4%) โดยเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นเป็นผลมาจากการปรับตัวขึ้นของราคาพลังงาน

📰 ขณะที่ดัชนีเงินเฟ้อ CPI พื้นฐานของสหรัฐฯเดือนก.พ.เมื่อเทียบเป็นรายปีปรับตัวขึ้นสูงกว่าที่คาด เเต่ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนที่ (3.8% vs 3.7% vs 3.9%) เเละเมื่อเทียบเป็นรายเดือนปรับตัวขึ้นสูงกว่าที่คาดที่ (0.4% vs 0.3%)

⏭️ การรายงานเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาดเพียงเล็กน้อย ไม่ได้ส่งผลเชิงลบต่อตลาดหุ้นเเต่อย่างใด โดยตลาดหุ้นยังคงปรับตัวขึ้นได้ต่อ ทั้งนี้คาดว่าอาจจะเป็นเพราะตลาดยังคงมองเเนวโน้ม เเละ จำนวนครั้งในการปรับลดดอกเบี้ยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเเปลง อย่างไรก็ดี เเนะนำรอติดตามผลการประชุมของ Fed ที่จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 19-20 มี.ค. เพื่อทราบถึงเเนวโน้มเงินเฟ้อ ดอกเบี้ย เเละ เศรษฐกิจในระยะต่อไป

📰 ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปิดบวกลบผสมผสาน หลังนักลงทุนจับตาการรายงายตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ขณะที่ตลาดหุ้นจีนปรับตัวขึ้นได้โดดเด่นหลังนักลงทุนเริ่มเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นจีนมากขึ้นจากระดับ Valuation ที่น่าสนใจ

⏭️ ราคาหุ้นจีน H shares ปรับตัวขึ้นกว่า 20% ในช่วงที่ผ่านมาจนเกิด Technical Bull ภายหลังนักลงทุนเริ่มกลับมาเพิ่มน้ำหนักในหุ้นจีนมากขึ้นจากระดับ Valuation ที่ต่ำ เเละราคาที่ Laggard ตลาดอื่นๆอย่างมาก ในระยะสั้นเราคาดว่า Momentum ยังคงดีอยู่เเต่ต้องระมัดระวังเเนวต้านเเถว 6,000 จุด สำหรับ HSCEI Index หากผ่านเเละสามารถยืนได้ ตลาดหุ้นมีเเนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ต่อ

📰 อินเดียรายงานดัชนีเงินเฟ้อทั่วไป CPI เดือนก.พ. เมื่อเทียบเป็นรายปีปรับตัวขึ้นสูงกว่าคาด เเต่ชะลอลงจากเดือนก่อนที่ (5.09% vs 5.04% vs 5.10%) โดยเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาดเป็นผลมาจากราคาอาหารเดือนก.พ. ที่เร่งตัวขึ้นกว่าเดือนก่อนที่ (8.66%YoY vs 8.3%YoY)

⏭️ ถึงเเม้ว่าเงินเฟ้ออินเดียจะชะลอตัวลงจากเดือนก่อน เเต่ก็ยังคงอยู่สูงกว่าระดับเป้าหมายที่ 4% (median) ส่งผลให้ตลาดคาดว่า RBI จะยังคงดอกเบี้ยไว้ในระดับเดิมต่อไปอย่างน้อยถึงเดือนส.ค. เพื่อเฝ้าดูเเนวโน้มราคาอาหารที่ยังคงผันผวนต่อเนื่อง ขณะเดียวกันเเนวโน้มเศรษฐกิจที่ขยายตัวโดดเด่นเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สนับสนุนการคงดอกเบี้ยของ RBI

🔰Outlook & Implication

✅️สำหรับตลาดหุ้นเรามีมุมมองเชิงบวกต่อภาพการลงทุนระยะ 3 เดือนข้างหน้า แต่หลังจบช่วงการประกาศงบ นักลงทุนอาจหันไปให้ความสำคัญต่อปัจจัยมหภาคมากขึ้น ซึ่งอาจสร้างความผันผวนและเพิ่มความเสี่ยงที่ตลาดหุ้นอาจจะพักฐานระยะสั้น สรุปคำแนะนำ ถือลงทุนต่อและรอจังหวะเข้าลงทุนเพิ่มหากปรับย่อ

✅️ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปัจจุบันยังคงมี Sentiment เชิงบวกจากเเนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังคงเติบโต ภาคแรงงานที่ยังแข็งแกร่ง เงินเฟ้อที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงต่อเนื่อง ความชัดเจนของการปรับลดดอกเบี้ย Fed มีมากขึ้น รวมถึงงบการเงินที่ยังคงทำได้ดีกว่าคาดการณ์ แนะนำทยอยสะสมเมื่อตลาดปรับย่อในกองทุนดัชนีหุ้นสหรัฐฯ SCBS&P500A, SCBNDQ(A) ส่วน Active Fund เเนะนำทยอยสะสมกอง SCBDIGI ที่มีการถือครองที่หลากหลาย ผสมผสานทั้ง Big Tech และหุุ้น Tech ขนาดกลาง-เล็ก อีกทั้งยังเปิดโอกาสในการเติบโตจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว เเละการมาของกระเเส AI Spreading อีกด้วย

✅️ สำหรับสินทรัพย์ที่มีความอ่อนไหวต่อแนวโน้มดอกเบี้ยอย่าง Bonds และ REITs เราเริ่มเห็นสัญญาณเชิงบวกมากขึ้น หลังนักลงทุนเริ่มปรับลดความคาดหวังการลดดอกเบี้ยในปีนี้มาใกล้เคียงกับมุมมองของ Fed แล้วดังนั้นจึงเป็นจังหวะทยอยสะสมหนึ่งในธีมหลักของเรา “Attractive Yield Plays” กองทุนแนะนำ SCBDBOND (กองตราสารหนี้ในประเทศ), SCBINC (กองตราสารหนี้โลก) และ SCBPINA (กอง REITs ไทยและสิงคโปร์)

แหล่งที่มา : SCBAM

แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก