กองทุนออมดอลลาร์ช่วยชาติ อาวุธใหม่ ง่าย ๆ แต่ทรงพลังจากมวลชนไทย กองทุนสายพันธุ์ใหม่ ที่มุ่งสร้างเพื่อใช้ดูแลค่าเงินบาทให้สอดคล้องกับดัชนีค่าเงินที่เหมาะสม เพื่อสินค้า และบริการไทยจะแข่งขันกับตลาดโลกโดยไม่เสียเปรียบใคร เพื่อใช้ปกบ้านป้องเมืองเมื่อเกิดวิกฤติการเงิน เพื่อเป็นจักรกลพัฒนาศักยภาพตลาดเงิน ตลาดทุนไทยให้แข็งแกร่ง และเพื่อเป็นช่องทางให้ผู้ออมไทยกระจายความเสี่ยงการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ แถมแปรผกผันกับสินทรัพย์เสี่ยงประเภทอื่นๆ ที่มีในประเทศไทย
ประเทศตะวันตกนำทฤษฎีการบริหารการลงทุนสมัยใหม่ (Modern Portfolio Theory) ซึ่ง Harry Markowitz เสนอไว้กว่า 60 ปี มีการนำมาใช้ต่อยอดจนเกิดเป็นตราสารการลงทุนหลากหลายชนิด เพื่อให้ผู้ออมชาวตะวันตกกระจายความเสี่ยง และได้ประสิทธิภาพลงทุนสูงสุด (Efficient Frontier) คือ เข้าถึงจุดผลตอบแทนที่สูงสุดโดยที่มีความเสี่ยงที่เท่ากัน หรือต่ำกว่าได้
เป็นเวลากว่า 45 ปี ที่ประเทศไทยกลับให้ความสำคัญ และมีมาตรการส่งเสริมตลาดหุ้นมากมายจนเป็นตลาดที่ทันสมัยในภูมิภาค
แต่กลับละเลยพัฒนาตลาดเงิน ตลาดตราสารหนี้ โดยเฉพาะตลาดรอง ( Secondary Market ) ปรับด้วยระดับราคาโดยเปรียบเทียบกับประเทศคู่ค้าและคู่แข่งสะท้อนอำนาจซื้อที่แท้จริงและความสามารถในการผลิตสินค้าของประเทศจึงไม่มีช่องทางให้ผู้ออมไทยบริหารความเสี่ยงที่กระจุกตัวสูงกับเศรษฐกิจไทย จึงต้องขวนขวายไปซื้อธนบัตรต่างประเทศ หรือทองคำมาเก็บไว้เพื่อกระจายความเสี่ยงการลงทุนแบบบ้าน ๆ ทั้งที่ธนบัตร และทองคำ เป็นการลงทุนที่ไม่มีดอกเบี้ย อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทนต่ำ ประสิทธิภาพการลงทุนต่ำ และยังเป็นการสูญเสียเงินออม ทรัพยากรมีค่าเพื่อการพัฒนาประเทศไปอย่างน่าเสียดาย จึงต้องเร่งรีบแก้ไขตามแนวทาง “ ออมดอลลาร์ช่วยชาติ กองทุนรวมเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย ”
ผู้ออมในประเทศมีอนาคตผูกกับเศรษฐกิจของประเทศ หากเศรษฐกิจไทยแย่ลง ผลตอบแทนของเงินออมจะต่ำลง ดอกเบี้ยต่ำลง หุ้นตก ตราสารหนี้ผิดนัดชำระ ธุรกิจขาดทุน รายได้ฝืดเคือง หรืออาจตกงานขาดรายได้ ล้วนเป็นการซ้ำเติมความเสียหายของผู้ออมชาวไทยที่มีจำนวนมากกว่านักเล่นหุ้น
ในกรณีเศรษฐกิจไทยตกต่ำเงินบาทอ่อนตามสภาพเศรษฐกิจ หากแต่เพียงผู้ออมจัดสัดส่วน และออมเป็นเงินดอลลาร์บางส่วนก็จะได้ผลตอบแทนดีขึ้น ( เพราะดอลลาร์ที่ถือแลกกลับมาเป็นเงินบาทได้มากขึ้น )
การที่ผู้ออมไทย ครอบครัว และอนาคตผูกติดกับเศรษฐกิจไทย จึงควรเข้าร่วมสนับสนุนให้มีการทวงคืนอธิปไตย กำหนดค่าเงินบาท ที่สะท้อนปัจจัยพื้นฐานของประเทศ และร่วมสร้างศักยภาพการป้องกันมิให้ต่างชาติมาเก็งกำไรค่าเงินจนแข็งเกินปัจจัยพื้นฐานอีก จนสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ และอนาคตของผู้ออมชาวไทย
จำต้องเปลี่ยนการบริหารจัดการค่าเงินแบบใหม่ ปรับยุทธวิธีใหม่
ไม่ปล่อยให้แบงก์ชาติรบกับต่างชาติอย่างโดดเดี่ยว ผู้ออมไทยต้องร่วมมือกับภาครัฐ ทางการต้องช่วยกำหนดนโยบายเชิงรุก และสนับสนุนเครื่องมือเชิงรุกชนิดต่าง ๆ ตามความเหมาะสม แล้วชี้แนะ ตั้งเป้าค่าเงินที่สะท้อนปัจจัยพื้นฐาน (ดัชนีค่าเงิน NEER / REER) แล้วรบพร้อมกัน ด้วยจำนวนเม็ดเงินของผู้ออมที่มีมาก ผสมกับความรักชาติ รักอนาคตของผู้ถือกองทุนออมดอลลาร์ช่วยชาติ ย่อมมีศักยภาพต่อสู้กับนักเก็งกำไรต่างชาติได้ดีกว่าปัจจุบันต้องปรับแนวคิดใหม่
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราบริหารค่าเงินโดยการวิเคราะห์เชิงปริมาณ ซึ่งพิสูจน์มากว่าสิบปีแล้วว่ามีนัยยะสำคัญน้อยมากต่อระดับอัตราแลกเปลี่ยนที่เหมาะสม เราควรเลิกบริหารค่าเงินบาทแบบเดิม ต้องรีบเปลี่ยน เราควรต้องตั้งเป้าที่อัตราแลกเปลี่ยนก่อน แล้วการเคลื่อนย้ายเงินเชิงปริมาณจะตามมา (รวมกับเม็ดเงินกองทุนออมดอลลาร์ช่วยชาติ) เพื่อเร่งให้เข้าสู่ค่าเงินเป้าหมายตามดัชนี เปรียบเปรยดังเช่น นโยบายการเงินที่ไม่ตั้งนโยบายเชิงปริมาณโดยกำหนดปริมาณเงินในระบบก่อน แล้วหวังว่าอัตราดอกเบี้ยจะเป็นตามเป้าหมายที่ต้องการ ทำไมเรากลับตั้งเป้าที่อัตราดอกเบี้ยก่อนและให้ปริมาณเงินเป็นตัวปรับตาม เราสมควรจะดำเนินนโยบายค่าเงินในลักษณะเดียวกันกับนโยบายดอกเบี้ย เพราะได้ผลกว่า โดยประกาศดัชนีค่าเงินให้ผู้ออมทั่วไปรับทราบว่า ค่าเงินที่เหมาะสมควรจะอยู่ที่เท่าไรนั่นเอง แล้วปล่อยให้พลังเม็ดเงินออมดอลลาร์ทำงาน
ทุกภาคส่วนจะได้ประโยชน์ ผู้ออมได้ผลตอบแทนที่มีประสิทธิภาพสูงสุด และภูมิใจที่ได้มีส่วนในการปกป้อง ดูแลค่าเงินเพื่อชาติ ธุรกิจเจริญรุ่งเรือง ไม่ต้องเติบโตต่ำสุดในภูมิภาคอีกต่อไป ฟื้นกลับเป็นเสือตัวที่ห้าดังที่หวังมานาน การจ้างงาน การลงทุนก็จะเพิ่มขึ้น สามารถเก็บรักษาเงินออมไว้ในประเทศเพื่อสร้างชาติไทย เม็ดเงินนี้ยังจะช่วยพัฒนาขีดความสามารถของอุตสาหกรรมการเงินของไทย
เม็ดเงินออมในประเทศจะเป็นหัวเชื้อในการต่อยอดพัฒนาตราสารการลงทุนให้หลากหลายตามทฤษฏีการบริหารการลงทุนสมัยใหม่ เพิ่มสมรรถภาพของนักการเงินไทยให้รู้ทั้งตลาดเงินใน และระหว่างประเทศ รวมถึงตลาดทุน แต่งตัวเตรียมพร้อมเป็นศูนย์กลางการเงิน และเป็นผู้นำในภูมิภาค CLMVT อย่างภาคภูมิ
นี่ยังเป็นจุดเริ่มต้นให้ผู้ออมไทยเพิ่มทักษะการบริหารเงินออม ตรงตามนโยบายทางการที่เน้นส่งเสริม Financial literacy เพื่อเป็นพื้นฐานตลาดเงินที่แข็งแกร่ง ผู้ออมจะไม่เป็นเหยื่อของนักการเงินต่างชาติที่มาหาโอกาส มาเอาเปรียบทำกำไรจากการแนะนำลงทุนที่เสี่ยงเกินตัวแก่ผู้ออมไทย
ด้วยศักยภาพที่สูงขึ้นของผู้ออมไทย ด้วยเม็ดเงินที่มากกว่า จะสามารถลดบทบาทของเม็ดเงินต่างชาติซึ่งเข้ามาก่อกวนเพื่อเก็งกำไร การแทรกแซงอัตราแลกเปลี่ยนของทางการก็จะ เปลี่ยนจากการแทรกแซงเชิงปริมาณ ( ซึ่งประจักษ์แล้วว่าไม่ได้ผล ) เป็นการแทรกแซงเชิงอัตราเพื่อทำโทษนักเก็งกำไร การแทรกแซงจะมีประสิทธิผลสูงขึ้นเป็นที่หวั่นเกรงของนักเก็งกำไรต่างชาติ เราจะเป็นผู้ชนะทุกองคาพยพจึงควรต้องร่วมมือร่วมใจกันรักษาอธิปไตยค่าเงินของเรา
วันที่เราพัฒนาตลาดเงินดอลลาร์ในประเทศให้แข็งแกร่งเพื่อรองรับธุรกรรมการค้า และการลงทุนที่แท้จริง ไม่เอื้อต่อการเก็งกำไร เมื่อนั้น หากธุรกิจไทยมีธุรกรรมที่ต้องแปลงเงินบาทจำนวนมาก ธุรกิจไทย และธปท. ก็จะไม่ต้องปวดหัว ตกใจว่าจะทำธุรกรรมการเงินให้สำเร็จทั้งหมด และได้ราคาที่ดีอย่างไร ทำอย่างไรจะไม่กระทบ และสร้างความผันผวนของราคาอัตราแลกเปลี่ยนในตลาดจนเป็นผลเสียกับตนเอง
หากอัตราแลกเปลี่ยนมีเสถียรภาพ และตลาดในประเทศมีเงินดอลลาร์มากพอ ธุรกิจก็ไม่จำเป็นต้องรีบทำธุรกรรมอย่างเร่งรีบ นักค้าเงินเก็งกำไรก็ไม่สามารถใช้ข้อมูลธุรกรรมใหญ่เพื่อแสวงหากำไร ( front run ) และสร้างความปั่นป่วนทิ้งไว้เป็นอนุสรณ์ให้เราต้องปวดใจ
การร่วมมือร่วมใจกันพัฒนาตลาดเงิน ตลาดทุนในประเทศ จะสร้างงาน และสร้างบุคคลากรคุณภาพให้ตลาดเงิน ตลาดทุนไทย สร้างผลิตภัณฑ์การเงิน การลงทุนที่หลากหลายจะเกิดตลาดรองที่มีสภาพคล่องที่ดี รองรับปริมาณที่ซื้อขาย และรับแรงกระแทกจากความผันผวนได้ เราจะไม่ต้องเห็นเงินไหลออกจากกองทุนตราสารหนี้จนเกิดวิกฤติความเชื่อมั่นในระบบบริหารจัดการกองทุน จนทางการต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ
นอกจากนี้ นโยบายสนับสนุนให้กองทุนไปลงทุนต่างประเทศ ทำให้มีการลงทุนในตราสารต่างประเทศที่ให้ผลตอบแทนสูง (search for yield) ซึ่งขัดกับนโยบายภาครัฐที่ไม่ต้องการให้นักลงทุน search for yield ในประเทศเพื่อรักษาเสถียรภาพระบบการเงิน แต่หุ้นกู้ต่างประเทศที่ให้ผลตอบแทนสูง ถึงแม้จะมีการจัดอยู่ในชั้นเครดิตที่ดี โอกาสได้รับชำระเงินต้นสูง แต่ย่อมต้องมีความผวนผันของราคาที่สูงด้วย ยิ่งในสถานการณ์โควิด – 19 ด้วยแล้ว ย่อมกดดันราคาของหุ้นกู้ที่มีผลตอบแทนสูง มิหนำซ้ำยังกดดันราคาหน่วยลงทุนให้ต่ำลงเกินควร นโยบายสนับสนุนการลงทุนต่างประเทศในที่สุดก็กลับมาแว้งกัดเราเอง สร้างปัญหาเสถียรภาพระบบการเงิน ทั้ง ๆ ที่การกำกับดูแลธุรกรรมการลงทุนต่างประเทศย่อมยากกว่าการกำกับดูแลธุรกรรมในประเทศ ดังนั้น เราสมควร ยกเลิกนโยบายส่งเสริมให้นำเงินออมส่วนเกินของประเทศไปลงทุนต่างประเทศ เลิกเอาเงินออมที่มีค่าของประเทศกำลังพัฒนาอย่างประเทศไทย ไปพัฒนาประเทศที่พัฒนาแล้ว จนเป็นการซ้ำเติมให้ระบบการเงินไทยอ่อนแอลง เป็นเหยื่ออันโอชะของนักการเงิน และนักเก็งกำไรต่างชาติ จึงควรตั้งกองทุนรวมความเสี่ยงต่ำสกุลเงินต่างประเทศ กองทุนรวมที่บริหารจัดการโดย บลจ. ภายใต้การกำกับของหน่วยราชการไทย
ผลึกความคิดจากที่ปรึกษาอาวุโส Wealth Management System Limited นำเสนอต่อที่ประชุมกลุ่มย่อยเฉพาะผู้บริหารระดับสูงภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับ ตลาดเงิน ตลาดทุน ร่วมกับผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทจัดการลงทุน และศาสตาจารย์ด้านการเงินและนักวิชาการอาวุโส : งานสัมมนา “ออมดอลลาร์ช่วยชาติกองทุนรวมเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย” 12 – 02 – 2020
ผลึกความคิดจากที่ปรึกษาอาวุโส Wealth Management System Limited นำเสนอต่อที่ประชุมกลุ่มย่อยเฉพาะผู้บริหารระดับสูงภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับ ตลาดเงิน ตลาดทุน ร่วมกับผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทจัดการลงทุน และศาสตราจารย์ด้านการเงินและนักวิชาการอาวุโส : งานสัมมนา “ออมดอลลาร์ช่วยชาติกองทุนรวมเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย” 12 – 02 – 2020