เปลี่ยน LTF เป็นกองทุนตราสารหนี้ วิธีพักเงินฉบับนักลงทุน

หลังจากถือ LTF ครบ7ปีแล้ว ถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจ แต่คำถามคือ “จะเอาเงินไปทำอะไรต่อดี?” บางคนอาจเลือกลงทุนต่อ เช่น ต้องการผลตอบแทนสูงอาจจะเลือกลงทุนในกองทุนหุ้น หรือถ้าอยากพักเงินการนำเงินไปพักในกองทุนตราสารหนี้อาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

ทำไมต้องเลือกกองทุนตราสารหนี้

1. ลดความเสี่ยง แต่ยังมีโอกาสรับผลตอบแทน

กองทุนตราสารหนี้มีความเสี่ยงต่ำกว่าหุ้น และมักให้ผลตอบแทนสูงกว่าการฝากเงินออมทรัพย์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักเงินชั่วคราวก่อนตัดสินใจลงทุนใหม่

2. สภาพคล่องสูง ถอนเมื่อไหร่ก็ได้

กองทุนตราสารหนี้ส่วนใหญ่สามารถซื้อ-ขายได้ทุกวันทำการ ทำให้คุณสามารถถอนเงินออกมาได้ตามต้องการ ต่างจากการฝากประจำที่ต้องรอครบกำหนดก่อนถอน

3. ป้องกันความผันผวนของตลาดหุ้น

หากคุณยังไม่พร้อมเสี่ยงกับตลาดหุ้นที่อาจผันผวน การนำเงินจาก LTF ไปไว้ในกองทุนตราสารหนี้ช่วยให้เงินยังคงเติบโตได้ โดยไม่ต้องเผชิญความเสี่ยงสูงเหมือนการลงทุนในหุ้น

กองทุนตราสารหนี้แบบไหนที่เหมาะกับคุณ?

  • กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น – คือกองทุนรวมที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุตราสารสั้น มักไม่เกิน 1-3 ปี เช่น พันธบัตรรัฐบาลระยะสั้น ตั๋วเงินคลัง หุ้นกู้เอกชนระยะสั้น และเงินฝากประจำ ผลตอบแทนสูงกว่ากองทุนตลาดเงินเล็กน้อย แต่ยังคงรับความเสี่ยงต่ำ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่กังวลเรื่อง อัตราดอกเบี้ยผันผวน และไม่ต้องการให้มูลค่ากองทุนเปลี่ยนแปลงมาก ตัวอย่างเช่น KKP S-PLUS , ES-TSB
  • กองทุนตราสารหนี้ระยะกลาง-คือ กองทุนรวมที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุตราสารปานกลาง (ประมาณ 3-5 ปี) เช่น พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้เอกชน ตราสารหนี้สถาบันการเงิน หรือเงินฝากประจำระยะยาว ผลตอบแทนสูงกว่ากองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น เพราะมีอายุตราสารยาวขึ้นและมีโอกาสได้รับดอกเบี้ยที่สูงกว่า เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการ ผลตอบแทนที่สูงกว่ากองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น แต่ไม่อยากรับความเสี่ยงสูงแบบหุ้น และรับความผันผวนของราคาตราสารหนี้ได้ ตัวอย่างเช่น KFENFIX
  • กองทุนตราสารหนี้ระยะยาว -คือกองทุนรวมที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุตราสาร มากกว่า 5 ปีขึ้นไป เช่น พันธบัตรรัฐบาลระยะยาว หุ้นกู้เอกชนระยะยาว หรือพันธบัตรองค์กรขนาดใหญ่ผลตอบแทนสูงกว่ากองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นและกลาง เนื่องจากอายุตราสารยาวขึ้น จึงมักให้ดอกเบี้ยสูงขึ้น เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการ ผลตอบแทนสูงกว่าตราสารหนี้ระยะสั้นและกลาง และต้องการกระแสเงินสดสม่ำเสมอ ได้รับดอกเบี้ยจากตราสารหนี้เป็นประจำ และยังสามารถคาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยจะลดลง และต้องการได้ประโยชน์จากราคาตราสารหนี้ที่เพิ่มขึ้น ตัวอย่างเช่น KTILF , K-FIXED-A

ตัวอย่าง กองทุนรวมตราสารหนี้

KFAHYBON-A กองทุนเปิดกรุงศรีเอเชียนไฮยิลด์บอนด์-สะสมมูลค่า

ระดับความเสี่ยง : 6

KT-CSBOND-A กองทุนเปิดเคแทม แคปปิตอล ซีเคียวริตี้ ฟันด์ ชนิดสะสมมูลค่า
ระดับความเสี่ยง : 5
KT-MFB-A กองทุนเปิดเคแทม มัลติ แมเนเจอร์ เฟล็กซิเบิ้ล บอนด์ ฟันด์ ชนิดสะสมมูลค่า

ระดับความเสี่ยง : 5

ES-EBF กองทุนเปิดอีสท์สปริง Emerging Bond

ระดับความเสี่ยง : 5

K-APB-A(A) กองทุนเปิดเค เอเชีย แปซิฟิก บอนด์-A ชนิดสะสมมูลค่า

ระดับความเสี่ยง : 5

*ข้อมูลจากกองทุนที่ติดอันดับ Top Charts ของWealthMagik จัดอันดับ ณ วันที่ 26/1/2568

การขาย LTF ไม่ได้หมายความว่าต้องรีบลงทุนใหม่ทันที หากยังไม่มีแผนที่ชัดเจน การพักเงินในกองทุนตราสารหนี้ช่วยให้มีเวลาไตร่ตรองและเลือกแนวทางการลงทุนต่อไปได้โดยไม่เสียโอกาสทางการเงิน ดังนั้น เท LTF แล้วไม่ต้องพักใจ แค่เปลี่ยนไปพักเงินในกองทุนตราสารหนี้ ก็ช่วยให้เงินทำงานต่อได้ในอนาคต

พร้อมเริ่มต้น? ค้นหากองทุนตราสารหนี้ที่เหมาะกับคุณได้ที่เมนู Fund info เว็บไซต์ WealthMagikและมาพักเงิน พักใจไปกับกองทุนตราสารหนี้กันครับ!

เปิดบัญชีและลงทุนผ่านแอป WealthMagik Securities

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

WealthMagik – ลงทุนง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว

โทร 02 – 437 – 1588

Line : @WealthMagik หรือ คลิกที่นี่ 

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

WealthMagik – ลงทุนง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว

โทร 02 – 437 – 1588

Line : @WealthMagik หรือ คลิกที่นี่