ลงทุนครึ่งปีหลัง 2568 ต้องรู้! เศรษฐกิจโลกกำลังเปลี่ยนไปทางไหน?

ลงทุนครึ่งปีหลัง 2568
ใกล้หมดครึ่งปีแรกของปี 2568 ที่ผ่านไปท่ามกลางความผันผวนทางเศรษฐกิจทั่วโลก ทั้งจากนโยบายการเงินที่ยังเข้มงวด ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ และความไม่แน่นอนในภาคการค้าโลก ถ้าหากคุณกำลังวางแผน ลงทุนครึ่งปีหลัง 2568 WealthMagik ได้สรุปข้อมูลสำคัญที่ควรทราบเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป

สถานการณ์เศรษฐกิจโลกกลางปี 2568 จุดเปลี่ยนที่ต้องจับตา

สหรัฐอเมริกา: เศรษฐกิจชะลอตัวจากนโยบายการค้า

เศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มแสดงสัญญาณชะลอตัวจากนโยบายการค้าของรัฐบาล โดยเฉพาะการขึ้นภาษีนำเข้า ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและตลาดแรงงาน นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงจากภาวะ “stagflation” หรือการชะลอตัวทางเศรษฐกิจควบคู่กับเงินเฟ้อที่ยังสูง คาดว่าเฟดจะประเมินผลกระทบจากนโยบายทรัมป์ต่อทิศทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อสหรัฐฯในระยะนี้ ก่อนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในช่วงครึ่งหลังปีนี้

จีน: ฟื้นตัวอย่างระมัดระวัง

แม้รัฐบาลจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง แต่การฟื้นตัวยังเป็นไปอย่างระมัดระวัง โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังคงติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่สามในเดือนเมษายน ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ลดลงต่อเนื่อง สะท้อนถึงแรงกดดันจากอุปทานส่วนเกินและความต้องการที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่

ญี่ปุ่น: เผชิญแรงกดดันจากภายนอก

เศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัวในไตรมาสแรกของปี 2568 จากการบริโภคที่อ่อนแอและการส่งออกที่ลดลง โดยเฉพาะผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ที่ส่งผลต่อภาคการผลิตและการส่งออกของญี่ปุ่น

ยุโรป: ฟื้นตัวอย่างเปราะบางท่ามกลางความไม่แน่นอน

ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับ 2.75% ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 นับเป็นการปรับลดครั้งที่ 5 ติดต่อกัน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแอ แม้เศรษฐกิจโดยรวมจะฟื้นตัวอย่างเปราะบาง แต่ตลาดหุ้นยุโรปกลับแสดงความแข็งแกร่ง โดยดัชนีหุ้นในเยอรมนี สเปน อิตาลี และฝรั่งเศส ต่างพุ่งขึ้นในไตรมาสแรกของปี 2568 ทำให้การลงทุนในยุโรปน่าสนใจขึ้น แต่ยังมีความเสี่ยงจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ โดยทรัมป์ ได้แนะนำให้เก็บภาษีนำเข้าจากสหภาพยุโรปในอัตรา 50% หลังจากการเจรจาการค้าระหว่างกันหยุดชะงัก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกของยุโรปและเพิ่มความตึงเครียดทางการค้า
สรุปการลงทุนครึ่งปีหลัง 2568

เศรษฐกิจไทยกลางปี 2568: ความท้าทายและโอกาส

เศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกของปี 2568 ขยายตัว 3.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับแรงหนุนจากการเร่งส่งออกก่อนที่มาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ จะมีผลบังคับใช้ อย่างไรก็ตาม ภาคการผลิต การบริโภค และการท่องเที่ยวมีแนวโน้มชะลอตัว การขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย โดยคาดว่ามูลค่าการส่งออกทั้งปีจะเติบโตเพียง 0.3-0.9% จากประมาณการเดิมที่ 1.5-2.5%. หากไทยถูกเรียกเก็บภาษีที่อัตรา 36% ในครึ่งปีหลัง GDP ปี 2568 อาจเติบโตเพียง 0.7%-1.4% เนื่องจากการส่งออกทั้งปีอาจหดตัวได้มากถึง -2%
สำหรับทั้งปี 2568 นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า GDP จะเติบโตที่ 1.4% โดยขึ้นอยู่กับผลการเจรจาทางการค้าและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น โดยกระทรวงการคลังเตรียมเคาะโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท ภายในสิ้นเดือนพฤษภาคม 2568 เพื่อเร่งดันเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในปีนี้

กลยุทธ์การลงทุนครึ่งปีหลัง 2568: ปรับพอร์ตอย่างไรให้รับมือกับความไม่แน่นอน

1. กระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง

ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอน การกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น หุ้น ตราสารหนี้ และทองคำ สามารถช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่มั่นคง

2. เน้นหุ้นกลุ่ม Defensive และ Growth Sectors

ควรพิจารณาลงทุนในหุ้นกลุ่มที่มีความมั่นคง เช่น กลุ่มสาธารณูปโภค และกลุ่มที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง เช่น เทคโนโลยีและพลังงานสะอาด ซึ่งมีแนวโน้มได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก

3. ติดตามนโยบายการเงินและข่าวสารอย่างใกล้ชิด

การเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากธนาคารกลางและรัฐบาลต่าง ๆ จะมีผลต่อทิศทางของตลาดการเงิน นักลงทุนควรติดตามข่าวสารและปรับพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์

สรุป: การลงทุนครึ่งปีหลัง 2568 ต้องอาศัยความยืดหยุ่นและการวางแผนที่รอบคอบ

ปี 2568 เป็นปีที่เศรษฐกิจโลกกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน การลงทุนครึ่งปีหลัง 2568 จึงต้องอาศัยการวางแผนที่รอบคอบ กระจายความเสี่ยง และติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถปรับตัวและสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาว

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

โทร 02 – 437 – 1588

Line : @WealthMagik หรือ คลิกที่นี่ 

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

โทร 02 – 437 – 1588

Line : @WealthMagik หรือ คลิกที่นี่