3 เหตุผลที่ควรลงทุน Thai ESGX ทางเลือกใหม่ของคนอยากลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม

คนที่เคยลงทุนใน LTF มาก่อน แต่ตอนนี้ยังลังเลว่าจะเปลี่ยนไปลงทุนอะไรดี หรือหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องจ่ายภาษีปีละหลายหมื่นบาทขึ้นไป บทความนี้จะช่วยเปิดมุมมองใหม่ให้กับคุณว่า ทำไม Thai ESGX คือคำตอบที่ไม่ควรมองข้าม
เหตุผลที่ 1 : Thai ESGX ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของรายได้ (แต่ไม่เกิน 300,000 บาท)
สำหรับคนที่มีฐานรายได้สูง ยิ่งเสียภาษีมาก ยิ่งควรหาวิธีลดหย่อนที่คุ้มค่า และ Thai ESGX คือกองทุนที่รัฐกำหนดให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลดหย่อนภาษี โดยคุณสามารถซื้อกองทุน Thai ESGX และนำไปลดหย่อนภาษีได้ทันที
สำหรับเงินลงทุนใหม่เฉพาะปี 2568
ลดหย่อนได้สูงสุด 300,000 บาท และไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน
สำหรับผู้ลงทุนที่สับเปลี่ยน LTF มา Thai ESGX
ลดหย่อนได้สูงสุด 500,000 บาท โดยไม่มีเงื่อนไข 30% ของเงินได้พึงประเมิน
- ปี 2568 สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 300,000 บาท
- ปี 2569-2572 ส่วนอีก 200,000 บาทที่เหลือ ทยอยใช้สิทธิได้ปีละไม่เกิน 50,000 บาท 4 ปี
เหตุผลที่ 2 : เป็นกองทุนที่ต่อยอดจาก LTF
หลายคนที่เคยลงทุนใน LTF อาจยังไม่แน่ใจว่าจะเปลี่ยนไปลงทุนในอะไรต่อ Thai ESGX คือคำตอบที่ภาครัฐตั้งใจออกมาเพื่อทดแทน LTF โดยตรง
- ถือครอง 5 ปีนับจากวันที่ซื้อ/วันที่จัดสรรหน่วยลงทุน(นับแบบวันชนวัน)
- เน้นลงทุนในหุ้นไทยที่ให้ความสำคัญกับ ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาล)
- เหมาะกับคนที่อยากลงทุนในหุ้นไทยระยะกลาง-ยาว
เหตุผลที่ 3 : ลงทุนในธุรกิจที่มีอนาคต และลดความเสี่ยงด้านธรรมาภิบาล
กองทุน Thai ESGX จะเน้นลงทุนในบริษัทที่ให้ความสำคัญกับหลัก ESG หรือก็คือ
- E (Environment): สิ่งแวดล้อม
- S (Social): ความรับผิดชอบต่อสังคม
- G (Governance): ธรรมาภิบาล
บริษัทเหล่านี้มักมีความยั่งยืนสูงในระยะยาว และมีโอกาสเติบโตอย่างมั่นคง พร้อมลดโอกาสเกิดปัญหาทางกฎหมายหรือความเสียหายจากการบริหารที่ผิดพลาด
ถ้าคุณเสียภาษีเยอะและยังต้องการสิทธิลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม หรือยังไม่ได้ขาย LTF — อย่ามองข้าม Thai ESGX
รีบ! ตัดสินใจสับเปลี่ยนหรือซื้อ Thai ESGX ก่อนจะหมดเขตวันที่ 30 มิถุนายน 2568 นี้