กองทุนหุ้นจีน ใจยังสู้ หรือขอดูอยู่ห่าง ๆ?

ในเดือนมีนาคม 2568 ตลาดหุ้นจีนแสดงสัญญาณฟื้นตัวอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในกลุ่มหุ้นเทคโนโลยี ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการเปิดตัวเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ใหม่อย่าง DeepSeek AI ที่มีต้นทุนต่ำและประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังได้เปิดแผนปฏิบัติการพิเศษเพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนเพิ่มเติมต่อการเติบโตของตลาดหุ้น
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยเสี่ยงที่ยังคงมีอยู่ เช่น ความไม่แน่นอนของนโยบายรัฐบาลจีน ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ และความผันผวนในภาคอสังหาริมทรัพย์ ดังนั้น การกระจายความเสี่ยงและการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดยังคงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการลงทุนในกองทุนหุ้นจีนในช่วงเวลานี้

เปรียบเทียบกองทุนหุ้นจีนที่น่าสนใจ

SCBCEH

กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นจีน THB เฮ็ดจ์ ชนิดสะสมมูลค่า
ระดับความเสี่ยง : 6

MEGA10CHINA-A

กองทุนเปิด MEGA 10 CHINA ชนิดสะสมมูลค่า

ระดับความเสี่ยง : 6

KF-CHINA

กองทุนเปิดกรุงศรีไชน่าอิควิตี้

ระดับความเสี่ยง : 6

กองทุนเปิดพรินซิเพิล ไชน่า เทคโนโลยี ชนิดสะสมมูลค่า

PRINCIPAL CHTECH-A

ระดับความเสี่ยง : 6

SCBCTECHA

กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ China Technology (ชนิดสะสมมูลค่า)
ระดับความเสี่ยง : 7

*การลงทุนมีความเสี่ยง ผลตอบแทนในอดีตไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคตได้ ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

ผลตอบแทน

ข้อมูล ณ วันที่ 13 มี.ค. 2568

ถ้าหากเทียบกันที่ระหว่างผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี SCBCEH ให้ผลตอบแทนมากที่สุด อยู่ที่ 43.96% รองลงมา KF-CHINA อยู่ที่ 43.01% ส่วน SCBCTECHA ให้ผลตอบแทนน้อยที่สุด อยู่ที่ 37.08% แต่ว่า! เรามองเพียงแค่ผลตอบแทนย้อนหลังเพียงอย่างเดียวไม่ได้ จะต้องมองปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย

ค่าธรรมเนียม

กองทุนที่มีอัตราค่าใช้จ่ายน้อยที่สุดคือ KF-CHINA อยู่ที่ 1.01 % มีค่าธรรมเนียมการขาย 0.40 % และรองลงมาคือ SCBCEH อยู่ที่ 1.11 % มีค่าธรรมเนียมการขาย 0.50 %

ความเสี่ยง

ในมุมมองของเรื่องความเสี่ยงอาจมองได้ว่า กองทุนที่มีค่า SD ยิ่งต่ำยิ่งดี ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากองทุนมีความผันผวนของผลตอบแทนน้อย โดย KF-CHINA มีค่า SD ต่ำ อยู่ที่ 27.34 และรองลงมาคือ SCBCEH มีค่า SD อยู่ที่ 27.48

จากการเปรียบเทียบกองทุนหุ้นจีนที่ยกตัวอย่างมาทั้ง 5 กองทุนแล้ว แอดมินเลือก KF-CHINA เนื่องจากเป็นกองทุนที่ ให้ผลตอบแทนย้อนหลังดี อัตราค่าใช้จ่ายของกองทุน และค่าธรรมเนียมการขายอยู่ในเปอร์เซ็นต์ที่น้อยและกองทุนมีความผันผวนของผลตอบแทนน้อย

ทริค! เลือกกองทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีแบบสม่ำเสมอมากกว่ากองทุนที่ให้ผลตอบแทนโดดเด่นแค่บางปี ซึ่งจะทำให้เราเห็นผลตอบแทนโดยรวมของกองทุนนั้นดูน่าสนใจและน่าลงทุนมากขึ้น

**จากที่กล่าวมาเป็นเพียงข้อมูลเปรียบเทียบเพื่อให้เห็นการใช้ Fund Compare ของทาง WealthMagik เพียงเท่านั้น การเลือกกองทุนที่จะลงทุนต้องขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัย เช่น การเงิน หรือ สถานการณ์ปัจจุบัน รวมกัน ฉะนั้นควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนการตัดสินใจลงทุน

หากใครอยากดูข้อมูลเปรียบเทียบของกองทุนหุ้นจีน เพิ่มเติมก็สามารถใช้ฟังก์ชัน Fund Compare ในเมนู Fund Info ของทาง WealthMagik และเลือกกองทุนที่ต้องการเปรียบเทียบตามที่ต้องการได้เลย

ศึกษาข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมด้วยเครื่องมือ Fund Info

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

WealthMagik – ลงทุนง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว

โทร 02 – 437 – 1588

Line : @WealthMagik หรือ คลิกที่นี่ 

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

WealthMagik – ลงทุนง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว

โทร 02 – 437 – 1588

Line : @WealthMagik หรือ คลิกที่นี่