Thailand Web Stat

SCBAM : Morning Update ประจำวันที่ 8 มิถุนายน 2566

📈Market update

📍 Major Equity Indices: S&P500-0.38%, NASDAQ-1.29%, STOXX600-0.19%, Nikkei225-1.82%, HSCEI+0.95%, CSI300-0.49%, KOSPI+0.01%, NIFTY50+0.68%, SET+0.31%, VNINDEX+0.11%

📍 Sector Return: Energy-XLE(+2.65%), Real Estate-XLRE(+1.84%), Utilities-XLU(+1.70%), Technology-XLK(-1.49%), Consumer Services-XLC (-1.12%)

📍 USBY2Y 4.56%,USBY10Y 3.80%, WTI $72.53/bbl, Gold $1,940.02/oz, DXY 104.10

📍 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวผสมผสาน กลุ่มหุ้นเทคโนโลยีปรับตัวลง สวนทางกลุ่ม Energy ที่ปรับตัวขึ้น 2.65% ขณะที่กลุ่มธนาคารภูมิภาค (KRE) ปรับตัวขึ้น 3.31% นักลงทุนเริ่มคลายความกังวลต่อวิกฤตธนาคารพาณิชย์สหรัฐฯ หลังเห็นเงินฝากเริ่มกลับมาเพิ่มขึ้นและตัวเลขเศรษฐกิจที่ยังแข็งแกร่งช่วยลดความกังวลเศรษฐกิจถดถอย

📍 GDPNow แบบจำลองคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจสหรัฐฯ ของ Fed สาขา Atlanta ล่าสุด (as of 07/06/23) คาดว่า GDP2Q23 จะขยายตัว 2.2% เพิ่มขึ้นจากคาดการณ์ครั้งก่อนหน้า (01/06/23) ที่ 2.0% หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยรวมยังทยอยรายงานออกมาแข็งแกร่ง ลดความกังวลเศรษฐกิจถดถอยในระยะสั้น

📍 ตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานส่วนใหญ่ปรับตัวบวกลบสลับกัน ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลงมากกว่าภูมิภาค เริ่มมีแรงเทขายทำกำไรหลังปรับตัวขึ้นมาได้อย่างร้อนแรงในช่วงที่ผ่านมา

📍 รายงานตัวเลขส่งออกจีนเดือนพ.ค. ออกมาหดตัวมากกว่าคาดและเดือนก่อน(-7.5% vs -0.4% vs 8.5%YoY) ส่วนตัวเลขนำเข้าหดตัวแต่น้อยกว่าคาดและเดือนก่อน (-4.5% vs -8.0% vs -7.9%YoY) ส่งผลให้จีนเกินดุลการค้าในเดือนพ.ค. น้อยลงกว่าคาดและเดือนก่อน (65.8B vs 92.0B vs 90.2B)

📍 จากตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ยังดูชะลอตัวลงต่อเนื่องสร้างความหวังว่าทางการจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติม โดยนักวิเคราะห์ของ Citi Group คาดว่ารัฐบาลจีนจะเพิ่มมาตรการเร็วสุดในเดือนมิ.ย. แต่คาดว่าจะออกมาตรการเพิ่มเติมอย่างมีนัยสำคัญในการประชุม Politburo ในเดือนก.ค.

📍 Antony Blinken รมต.กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ มีแผนจะเดินทางเยือนจีนในเดือนนี้ หลังเคยยกเลิกแผนเยือนจีนแบบกะทันหันในเดือนก.พ. เพื่อตอบโต้ต่อกรณีกล่าวอ้างว่าจีนส่งบอลลูนสอดแนมเข้าสู่น่านฟ้าสหรัฐฯ ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสหรัฐฯ-จีน หลังจากสถานะค่อนข้างตึงเครียดตลอดช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา

📍 EIA รายงานสต๊อกนํ้ามันดิบสหรัฐฯ ลดลง 500,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล แต่สต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 2.7 ล้านบาร์เรลมากกว่าที่คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 750,000 บาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล พุ่งขึ้น 5.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรลเช่นกัน ถือว่าเป็นกลางต่อราคานำ้มัน

 

🔔Outlook & Implication

🌟ตลาดหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว นักลงทุนรอติดตามรายงานตัวเลขเงินเฟ้อและการประชุมของเหล่าธนาคารกลางสำคัญ (FED, BOJ, ECB) ในสัปดาห์หน้า ซึ่งอาจส่งผลให้ตลาดหุ้นมีความผันผวนเพิ่มขึ้นอีกครั้ง แต่เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมเพิ่ม แนะนำกลุ่มหุ้นคุณภาพ (SCBGQUAL) และกลุ่มหุ้นเทคโนโลยี (SCBNDQ/ SCBDIGI) ที่คาดว่าจะ outperform ในสภาวะดอกเบี้ยสูงค้างยาวและเศรษฐกิจอยู่ในช่วงปลายวัฏจักร

🌟เรามองว่าจีนมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นจากความหวังว่าภาครัฐจะทยอยออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม, ความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ดูผ่อนคลายลงและระดับราคาของตลาดหุ้นจีนในปัจจุบันทั้ง offshore/onshore ที่อยู่ตํ่ากว่าก่อนที่จีนจะประกาศเปิดเมืองแล้ว (26/12/22) ซึ่งเรามองว่าได้สะท้อนความผิดหวังและปัจจัยลบต่างๆไปมากพอสมควรแล้ว แนะนำสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและลงทุนระยะสั้น Trading กองทุน SCBCEH, SCBCHA  ส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาวทยอยสะสมกองทุน SCBCHEQ, SCBASHARES รวมถึงกองทุนที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีน SCBTRAVEL

🌟ตลาดนํ้ามันเรามีมุมมองแกว่งตัวในกรอบกว้าง สามารถหาโอกาสลงทุน Trading สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง แนะนำซื้อเก็งกำไร WTI แถวระดับ $65-75/bbl และขายทำกำไรแถวระดับ $80-85/bbl กองทุนแนะนำ SCBOIL

 

แหล่งที่มา : SCBAM

แหล่งข้อมูล : บลน.เว็ลธ์ เมจิก