📍Market update📍

📊 Major Equity Indices: S&P500+0.90%, NASDAQ+0.61%,STOXX600+0.09%, Nikkei225+0.19%, HSCEI+0.03%, CSI300-0.76%, KOSPI-0.85%, NIFTY50+0.41%, SET+0.13%, VNINDEX+1.26%

📊 Sector Return: Communication-XLC(+1.55%), Financial-XLF(+1.40%), Consumer Discretionary-XLY(+1.03%), Technology-XLK(+0.28%), Energy-XLE(+0.12%)

📊 USBY2Y 4.76%, USBY10Y 4.09%, WTI $81.94/bbl, Gold $1,936.56/oz, DXY 102.07

📰 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นเกือบทุกกลุ่มอุตสาหกรรม จากแรงซื้อกลับหลังจากดัชนีปรับลงแรงเมื่อสัปดาห์ก่อน แม้ว่าคณะกรรมการ Fed หลายท่านจะออกมาแสดงถึงความจำเป็นที่ Fed ต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อ ทั้งนี้ติดตามการรายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯในวันพฤหัสนี้ เพื่อบอกทิศทางการปรับดอกเบี้ยของ Fed ในการประชุมครั้งถัดไป

📰 การผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีเดือนมิ.ย. ตํ่ากว่าคาดและเดือนก่อนหน้า (-1.5% vs -0.5% vs -0.1%MoM)

⏭️ ตัวเลขภาคการผลิตที่ลดลง สะท้อนยอดคำสั่งซื้อที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะถัดไป ทำให้ยุโรปยังคงมีความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย จากตัวเลขเศรษฐกิจที่ดูอ่อนแอลง ขณะที่การปรับขึ้นดอกเบี้ยยังไม่สิ้นสุด เราจึงยังคงมุมมองเป็นกลาง (neutral) ในตลาดหุ้นยุโรป

📰 บริษัท Apple เริ่มทดสอบชิป M3 Max รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดของบริษัท รองรับการใช้งานที่ต้องการความละเอียดซับซ้อน เช่น การตัดต่อวิดีโอ โดยจะนำมาใช้ใน MacBook Pro ที่จะเปิดตัวในปีหน้า

⏭️ การพัฒนาชิปประมวลผลเพื่อใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆทั้ง smartphone และ notebook คาดว่าจะเป็นตัวกระตุ้นยอดขาย หลังความต้องการใช้งานผลิตภัณฑ์ดังกล่าวชะลอลงต่อเนื่องจากระบาดของโควิด-19 ดังนั้นเรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มเทคขนาดใหญ่ ที่มีงบการเงินแข็งแกร่ง และมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี แม้อยู่ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว แนะนำทยอยสะสมเมื่อย่อตัว

⏭️ บรรดาผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำในยุโรป เช่น BMW, Volkswagen ประกาศแผนรุกหนักในธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า เล็งนำเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมาประยุกต์ใช้ เพื่อหวังแย่งส่วนแบ่งตลาดจากเจ้าตลาดอย่างจีน

⏭️ เรามองว่า อุตสาหกรรมรถยนต์ EV จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากผู้ผลิตรถยนต์ที่มีการปรับตัวและเร่งพัฒนาขยายธุรกิจในกลุ่มรถยนต์ EV เพิ่มมากขึ้น ตามความต้องการที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในอนาคต ดังนั้นเรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มอุตสาหกรรมรถ EV แนะนำทยอยสะสมเมื่อย่อตัว

📰 ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวบวกลบสลับกัน นำโดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นและอินเดียปรับตัวขึ้นโดยมีแรงซื้อหลังจากดัชนีปรับลงเมื่อสัปดาห์ก่อน ขณะที่เกาหลีใต้และจีนปรับตัวลง โดยนักลงทุนรอติดตามรายงานตัวเลขส่งออกนำเข้าและเงินเฟ้อของจีน ในวันที่ 8-9 ส.ค.

📰 รายงานเงินเฟ้อ CPI ของไทยเดือน ก.ค. ออกมาต่ำกว่าคาด แต่สูงกว่าเดือนก่อน (0.38% vs 0.60% vs 0.23%YoY) จากการชะลอตัวของสินค้าในหมวดอาหาร และน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีการปรับตัวลง ประกอบกับฐานที่สูงในช่วงเดียวกันของปีก่อน

⏭️ เงินเฟ้อของไทยที่ปรับตัวลงต่อเนื่อง อาจเป็นปัจจัยหนุนให้กนง.หยุดขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจากปัจจุบันที่ 2.25% ซึ่งจะช่วยให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นไปอย่างต่อเนื่องและลดผลกระทบของต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น ทั้งนี้เรามีมุมมองเป็นกลาง (neutral) ในตลาดหุ้นไทย จากปัจจัยทางการเมืองที่ยังเป็นตัวกดดัน

🔰 Outlook & Implication

✅️ ตลาดหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุน หากตลาดหุ้นปรับย่อตัวลงจาก Profit taking/ Sell on fact หากการรายงานงบส่วนใหญ่ไม่ได้ออกมาต่ำกว่าคาดหรือให้ negative guidance มากจนเกินไป เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมในกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ และทั่วโลก (SCBNDQ/ SCBDIGI) จากแนวโน้มเงินเฟ้อชะลอตัวลง (Disinflation) หนุนวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นใกล้จบรอบและ AI Boom หนุนคาดการณ์กำไรเติบโต

✅️ กลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวและมีการเติบโตที่น่าสนใจในระยะกลาง-ยาว 1) SCBTRAVEL กองทุนที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนและช่วง High season การท่องเที่ยวในฝั่งตะวันตกคาดช่วยหนุนการเติบโตเชิงฤดูกาล 2) SCBEV  กองทุนที่ได้ประโยชน์จากมาตรการสนับสนุน EV รอบใหม่ของจีนและ Inflation Reduction Act ของสหรัฐฯ ที่ยังดำรงอยู่ต่อไปหลังผ่านการเพิ่มเพดานหนี้

แหล่งที่มา : SCBAM

แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก