🟣Morning Update by SCBAM

📊 Major Equity Indices: S&P500+0.32%, NASDAQ+0.35%, Russell2000+0.70%

STOXX600+0.07%, HSCEI+0.21%, CSI300+1.11%, KOSPI+1.17%, NIFTY+1.00%, SET+0.15%, TH Reits-0.37%, SG Reits+0.22%

📊 Sector Return: Consumer Discretionary-XLY(+2.33%), Utilities-XLU(+1.36%), Real Estate-XLRE(+1.12%), Technology-XLK(+0.43%), Financial-XLF(-0.15%), Communication Services-XLC(-1.16%), 

📊 USBY2Y 4.98%, USBY10Y 4.61%, WTI $82.63/bbl, Gold $2,335.66/oz, DXY 105.58

📰 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกเล็กน้อย Tesla ปรับตัวโดดเด่นหลัง CEO ไปเยือนจีนและมีพัฒนาการเชิงบวกต่อบริษัท ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่จับตาผลการประชุม Fed ช่วงกลางสัปดาห์, ดัชนีเศรษฐกิจสำคัญฝั่งแรงงานช่วงปลายสัปดาห์ รวมถึงรายงานงบ Amazon ในคืนนี้

📰 กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ปรับเพิ่มมูลค่าพันธบัตรรัฐบาลที่มีแผนจะออกในไตรมาสสองเป็น 2.43 แสนล้านเหรียญ สูงกว่าคาดการณ์จาก Dealers ราว 4.1 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งจะเป็นการเพิ่ม supply ของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ทั้งนี้ล่าสุด US bond yield ค่อนข้างทรงตัวไม่ได้สะท้อนความกังวลดังกล่าวมากนัก

📰 Tesla ปรับตัวขึ้นโดดเด่น หลังทางการจีนผ่อนคลายข้อบังคับเรื่องการใช้ระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติ (FSD) ของบริษัท หลังผ่านเกณฑ์ความปลอดภัยเรื่องข้อมูล โดยก่อนหน้านี้ผู้ขับขี่รถของบริษัทในจีนสามารถใช้ระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติได้จำกัดจากข้อบังคับดังกล่าว

⏭️ รายงานข้างต้นช่วยเพิ่มมุมมองบวกต่อ Tesla เนื่องจากลูกค้าจีนจะสามารถใช้งานระบบ FSD ได้เต็มรูปแบบมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันท่ามกลางตลาดจีนที่มีการแข่งขันดุเดือด แต่ก็เป็นตลาดรถ EV ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้คาดว่าบริษัทจะสามารถเก็บข้อมูลการใช้งานของผู้ขับขี่ได้มากขึ้นเพื่อนำไปปรับปรุงพัฒนาระบบให้ดีขึ้นต่อไป

📰 ตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานปรับตัวบวกเป็นส่วนใหญ่ ตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ปรับตัวทะลุเส้นค่าเฉลี่ย EMA200 วันตามตลาดหุ้นจีนฮ่องกง หนุนจากข่าวผู้ประกอบการอสังหาจีนรายใหญ่หลายเจ้าเปิดเผยว่าบรรลุข้อตกลงกับผู้ถือตราสารหนี้นอกประเทศของบริษัทได้แล้วและข่าวรัฐบาลท้องถิ่นผ่อนคลายภาคอสังหาตามนโยบายของทางการต่อเนื่อง โดยล่าสุด มณฑลเฉิงตูประกาศยกเลิกการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ซื้อบ้านใหม่เพื่อช่วยกระตุ้นภาคอสังหา

📰 กระทรวงการคลังปรับ GDP ปีนี้เหลือ 2.4% จากเดิมคาดไว้ที่ 2.8% จากการส่งออกสินค้าหดตัวมากกว่าคาดโดยเฉพาะสินค้าอุตสาหกรรมที่หดตัว ทั้งนี้หากโครงการดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ตามกรอบที่วางไว้ คาดว่าจะช่วยหนุน GDP ปีนี้ให้เพิ่มขึ้นอีกราว 1.2-1.8%

📰 เวียดนามรายงานดัชนีเศรษฐกิจสำคัญดังนี้ ผลผลิตอุตสาหกรรมขยายตัว 6.3%YoY จากเดือนก่อน 4.8%YoY ตัวเลขยอดค้าปลีกขยายตัว 9.0%YoY จากเดือนก่อนที่ 9.2%YoY ขณะที่เงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นเป็น 4.40%YoY จากเดือนก่อนที่ 3.97%YoY ซึ่งยังอยู่ในกรอบที่ทางการตั้งเป้าไว้ที่ 4.0-4.5%YoY

⏭️ รายงานข้างต้นค่อนข้างน่าพอใจ โดยเรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นเวียดนามในระยะ 3-6 เดือนข้างหน้าจากแนวโน้มเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนเติบโตสูง ขณะที่ระดับมูลค่าไม่แพงเทียบอดีตและความหวังการถูกปรับขึ้นจากตลาด Frontier เป็น Emerging market ของ FTSE ในช่วงเดือนก.ย. ปีนี้

🔰 Outlook & Implication

✅️ ระยะสั้นแม้ความตึงเครียดในตะวันออกกลางจะดูผ่อนคลายลงสะท้อนจากราคาทองและราคาน้ำมัน แต่ตลาดอาจผันผวนสูงต่อไปได้ในระยะสั้น เนื่องจากกำลังอยู่ในช่วงปรับความคาดหวังการลดดอกเบี้ยของ Fed และการทยอยประกาศงบ 1Q24 สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้จำกัด อาจพักเงินในกองทุนตลาดเงิน (SCBMONEY) หรือตราสารหนี้ระยะสั้น (SCBSFFPLUS) เพื่อรอจังหวะเข้าสะสมลงทุนอีกครั้ง หรือลงทุนหุ้นโลกผ่านกองทุน SCBLEQ ซึ่งคาดว่าจะมีโอกาสปรับตัวลงในระดับที่น้อยกว่าตลาดหุ้นโลกโดยรวมในช่วงตลาดกำลังพักฐาน

✅️ ระยะกลาง 3-6 เดือน เรายังมองบวกบนสมมุติฐานหลักที่ว่าเศรษฐกิจโลกไม่ถดถอยและ Fed เริ่มลดดอกเบี้ยในปีนี้ โดยทิศทางตลาดหุ้นคาดว่าจะถูกขับเคลื่อนจากการเติบโตกำไรบริษัทจดทะเบียนเป็นหลัก ดังนั้นยังคงคำแนะนำ Stay Invested  ต่อไป โดยนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและทนความผันผวนระยะสั้นได้ มองเป็นจังหวะลงทุนเพิ่มในธีมการลงทุนหลักของเราได้แก่ “AI Spreading” (SCBDIGI), “Asia in Focus” (SCBKEQTG, SCBVIET) และ “Attractive Yield Plays” (SCBINC)

✅️ คำแนะนำ Momentum Call สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง แนะนำเก็งกำไรกองทุน SCBCEH จากภาพทางเทคนิคที่ดูดีหลังทะลุเส้นค่าเฉลี่ย EMA200 วันและคาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนเริ่มถูกกลับมาปรับขึ้นหลังถูกปรับลงมาตั้งแต่ต้นปี โดยพิจารณาดัชนี HSCEI Trading แนวต้านแรก บริเวณ 6,250 จุด และแนวต้านถัดไป 6,560 จุด แต่หากผิดทาง ตั้งจุด Stop Loss ที่เส้นค่าเฉลี่ย EMA 200 วันบริเวณ 5,930 จุด

แหล่งที่มา : SCBAM

แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก