🟣Morning Update by SCBAM

📍Market update📍

📊 Major Equity Indices: S&P500-0.57%, NASDAQ-1.63%, STOXX600-0.10%, HSCEI-1.66%, CSI300-1.30%, KOSPI+0.55%, NIFTY-0.35%, SET+1.24%, VNINDEX+0.16%, TH Reits+0.21%, SG Reits-0.81%

📊 Sector Return: Healthcare-XLV(+1.76%), Utilities-XLU(+1.45%), Consumer Staples-XLP(+1.12%), Communication Services-XLC(-0.56%), Consumer Discretionary-XLY(-0.93%), Technology-XLK(-2.62%)

📊 USBY2Y 4.32%, USBY10Y 3.93%, WTI $70.38/bbl, Gold $2,058.96/oz, DXY 102.23

📰 ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับตัวลดลงโดยถูกกดดันจากการปรับตัวลงของหุ้น Apple เเละการเร่งตัวขึ้นของ bond yield 10 ปีสหรัฐฯ รวมถึงกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาษีและการปรับพอร์ตโฟลิโอหลังสิ้นปีของ fund manager

📰 Barclays ปรับคำเเนะนำหุ้น Apple สู่ underweight บนความกังวลต่อยอดขาย iPhone 15 ที่กำลังซบเซาในขณะนี้ โดยเฉพาะในจีน ซึ่งสามารถบ่งชี้ถึงความอ่อนแอของยอดขาย iPhone รุ่นถัดไปได้เป็นอย่างดี

📰 S&P Global รายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 47.9 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. จากระดับ 49.4 ในเดือนพ.ย. และต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 48.2

📰 ราคา BTC พุ่งขึ้นเหนือระดับ 45,000 ดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า SEC ของสหรัฐฯ จะอนุมัติการจัดตั้ง Spot Bitcoin ETF ในเดือนนี้

⏭️ ตลาดหุ้นสหรัฐฯในระยะสั้นอาจชะลอความร้อนเเรงลงหลังจากปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมา ประเด็นสำคัญหลังจากนี้ จะต้องรอติดตามการรายงานงบการเงินไตรมาส 4/23 ซึ่งถ้าออกมาดีกว่าคาด คาดว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯจะปรับตัวขึ้นได้ต่อหลังจากการพักตัว

📰 ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลงเมื่อวานนี้ หลัง ดัชนีภาคการผลิตจีนจากทาง NBS หดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีนในปีนี้

📰 สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานเมื่อวันอาทิตย์ (31 ธ.ค.) ว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตปรับตัวลดลงแตะ 49.0 ในเดือนธ.ค. จากระดับ 49.4 ในเดือนพ.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 49.5

📰 Caixin เผยว่าดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนธ.ค.ของจีนขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ภายในประเทศที่แข็งแกร่งขึ้น

โดยเพิ่มขึ้นแตะระดับ 50.8 ในเดือนธ.ค. จากระดับ 50.7 ในเดือนพ.ย.

⏭️ การรายงาน ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนที่สวนทางกันระหว่าง Caixin กับ NBS สะท้อนให้เห็นถึงภาพการฟื้นตัวที่ยังขาดความชัดเจน เเละยิ่งถ้าล่าช้า อาจจะส่งผลต่อภาพการฟื้นตัวของตลาดหุ้นเเละเศรษฐกิจของฝั่งเอเชียได้เช่นกัน เเละถึงเเม้ราคาหุ้นจีนจะ laggard ที่อื่นๆค่อนข้างมาก เเต่ภาพการฟื้นตัวที่ไม่ชัดเจน ย่อมไม่สามารถเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนให้กลับมาลงทุนได้เร็วๆนี้ เเนะนำเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุน เเละรอติดตามการรายงานนโยบายเเละตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญต่อไป

📰 ข้อมูลเบื้องต้นเผยว่า เศรษฐกิจสิงคโปร์ในไตรมาสที่ 4/66 ขยายตัว 2.8%YoY สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวดีขึ้นของภาคก่อสร้างและภาคการผลิต

📰 ที่ประชุม ครม. ของไทย มีมติให้ยกเลิก วีซ่านักท่องเที่ยวจีนแบบถาวร ในขณะเดียวกันทางการจีนก็ได้เตรียมยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศให้นักท่องเที่ยวไทยถาวร โดย เริ่ม 1 มี.ค. 67 นี้ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลบวกกับหุ้นท่องเที่ยวโดยเฉพาะกลุ่มการบิน รวมถึงรายได้รวมเเละจำนวนนักท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศให้เพิ่มขึ้นอีกด้วย

📰 ธปท. เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจโดยรวมเดือนธ.ค. 66 อยู่ที่ระดับ 49.1 ทรงตัวใกล้เคียงกับเดือนก่อนหน้า โดยความเชื่อมั่นด้านคำสั่งซื้อ ผลประกอบการ และการผลิตเพิ่มขึ้น ขณะที่ด้านการจ้างงาน และการลงทุนปรับลดลง

🔰Outlook & Implication

✅️สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงปานกลาง-สูงแนะนำลงทุนกองทุนตราสารหนี้โลก SCBINCA ที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากราคาตราสารหนี้ที่มักปรับตัวขึ้นต่อเนื่องหลัง Fed จบรอบดอกเบี้ยขาขึ้น, อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ที่อยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีและสำหรับกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน โดยเฉพาะยามที่ความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มสูงขึ้นในปีหน้า

✅️กลุ่มหุ้นคุณภาพสูงที่คาดว่าจะสามารถทนทานในสภาวะดอกเบี้ยสูงและช่วงปลายวัฏจักรเศรษฐกิจได้ดีกว่าตลาดโดยรวมได้แก่ SCBGQUAL, SCBPGF

✅️ตลาดหุ้นไทยถึงแม้จะปรับตัวลงแย่กว่าภูมิภาคและหุ้นทั่วโลกตลอดปี 2566 แต่กลับมองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมเพื่อลุ้นการฟื้นตัวในปี 2567 จากปัจจัยสนับสนุน 1) ทิศทางหลัง Fed จบรอบดอกเบี้ยขาขึ้นแนวโน้มค่าเงินบาทแข็งค่าและตลาดหุ้นไทยมักฟื้นตัวขึ้นได้ 2) แนวโน้มเศรษฐกิจขยายตัวสูงขึ้นจากปีนี้ สวนทางหลายประเทศทั่วโลกที่จะชะลอตัวลง 3) คาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนที่จะกลับมาขยายตัวขึ้นอีกครั้งในปี 2567 หลังจากหดตัวเมื่อปีที่ผ่านมา 4) ระดับมูลถูกกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว 10 ปี น่าสนใจลงทุน

แหล่งที่มา : SCBAM

แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก