Thailand Web Stat

SCBAM : Morning Update ประจำวันที่ 3 ตุลาคม 2566

🟣Morning Update by SCBAM

📍Market update📍

📊 Major Equity Indices: S&P500+0.01%, NASDAQ+0.67%, STOXX600-1.03%, Nikkei225-0.31%, SET-0.13%, VNINDEX+0.10%, TH Reits-1.80%, SG Reits-1.65%

📊 Sector Return: Technology-XLK(+1.07%), Communication Services-XLC(+0.75%), Consumer Discretionary-XLY(+0.08%), Energy-XLE(-1.99%), Utilities-XLU(-4.65%)

📊 USBY2Y 5.10%, USBY10Y 4.68%, WTI $88.82/bbl, Gold $1,828.03/oz, DXY 106.90

📰 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทรงตัว หลังจากความกังวลเรื่อง Government Shutdown คลี่คลายลง ขณะที่ US bond yield ทั้งอายุ 2 ปีและ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้น และ Dollar Index แข็งค่าต่อเนื่อง เป็นตัวกดดันตลาดหุ้น

📰 รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต เดือนก.ย. ของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าตลาดคาดและเดือนก่อนหน้า (49.8 vs 48.9 vs 48.9)

📰 ยูโรโซนรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต เดือนก.ย. ทรงตัวตามตลาดคาดและเดือนก่อนหน้า (43.4 vs 43.4 vs 43.4) ขณะที่อัตราการว่างงาน เดือนส.ค. ลดลงตามคาดและเดือนก่อนหน้า (6.4% vs 6.4% vs 6.5%)

⏭️ ดัชนีเศรษฐกิจข้างต้น สะท้อนภาคการผลิตในฝั่งสหรัฐฯมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้น สนับสนุนมุมมองของเราที่คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯยังไม่เข้าภาวะถดถอยในเร็วๆนี้และคาด Fed ค้างดอกเบี้ยระดับสูงนานกว่าคาด ในขณะที่ฝั่งยุโรปยังไม่เห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจนในภาคการผลิต และเศรษฐกิจมีความเปราะบางมากกว่าสหรัฐฯ ดังนั้นมุมมองการลงทุนในไตรมาส 4 เราให้น้ำหนัก Slightly Overweight ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขณะที่ Slightly Underweight ในตลาดหุ้นยุโรป

📰 Tesla เปิดเผยตัวเลขการส่งมอบรถยนต์ใน 3Q23 อยู่ที่ 435,059 คัน ต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ที่ 456,722 คัน และต่ำกว่าไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากปิดปรับปรุงโรงงานตามแผนที่แจ้งไว้ล่วงหน้า ทั้งนี้บริษัทยังคงยืนยันเป้าหมายส่งมอบรถยนต์ปีนี้เท่าเดิมที่ 1.8 ล้านคัน บ่งบอกถึงยอดขายที่จะกลับมาเติบโตแข็งแกร่งใน 4Q23 ทั้งนี้ยอดขายที่ลดลงน่าจะส่งผลต่อกำไรใน 3Q23 ที่จะประกาศในวันที่ 18 ต.ค.นี้

📰 ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปิดทำการวานนี้ (จีน, เกาหลีใต้, อินเดีย) ขณะที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นและไทยปรับตัวลงเล็กน้อยจากปัจจัยภายในประเทศ ส่วนตลาดหุ้นเวียดนามเริ่มเห็นการฟื้นตัวขึ้น หลังจากดัชนีปรับลงแรงเมื่อสัปดาห์ก่อน

📰 รายงานการประชุมนโยบายการเงินของ BOJ ในเดือนก.ย. ได้ข้อสรุปว่า ทาง BOJ อาจประเมินระดับเงินเฟ้อว่าสามารถบรรลุเป้าหมายที่ 2% ได้อย่างยั่งยืนหรือไม่ ในช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค. 2567 หลังจากได้ข้อมูลอัตราค่าจ้างในญี่ปุ่นในช่วงสิ้นปี เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจว่าจะยกเลิกนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษหรือไม่

📰 BOJ ประกาศเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5-10 ปี เพื่อชะลอการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร หลังจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี

📰 ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ในญี่ปุ่น (Tankan) ใน 3Q23 ปรับเพิ่มสูงกว่าคาดและเดือนก่อนหน้า ทั้งในภาคการผลิตซึ่งครอบคลุมผู้ผลิตรถยนต์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (9 vs 6 vs 5) และนอกภาคการผลิต (27 vs 24 vs 23)

⏭️ ข่าวดังกล่าวข้างต้นสะท้อนมุมมองตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่มีทั้งปัจจัยสนับสนุนในด้านการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศที่ดีต่อเนื่อง จากดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ผลิตที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ในทางกลับกันเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งอาจเป็นปัจจัยกดดันให้ BOJ ยกเลิกนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายในระยะถัดไป ซึ่งตลาดคาดว่าจะเป็นช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ตามรายงานการประชุมนโยบายการเงินของ BOJ เราจึงมีมุมมองเป็นกลางในตลาดหุ้นญี่ปุ่น ทั้งนี้ในระยะสั้นคาดว่าตลาดหุ้นญี่ปุ่นอาจผันผวนสูงขึ้นจากการเข้าซื้อพันธบัตรเพิ่มเติมของ BOJ และความเสี่ยงที่ทางการจะเข้าแทรกแซงค่าเงินเยนที่ปรับขึ้นแตะ 150 เยน/ดอลลาร์

 

🔰 Outlook & Implication

✅️ ตลาดหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว

เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนโดยจะเน้นไปที่กลุ่มหุ้นคุณภาพสูง ส่วนตลาดหุ้นฝั่งเอเชียเราชอบตลาดหุ้นเวียดนามและตลาดหุ้นอินเดีย ที่คาดหวังการฟื้นตัวโดดเด่นในภาพระยะ 3 เดือนข้างหน้า

✅️ กลุ่มหุ้นคุณภาพสูงที่มีความสามารถในการทนทานต่อสภาวะ “higher for longer” ได้แก่ SCBGQUAL (กลุ่มหุ้นคุณภาพทั่วโลก), SCBNDQ/ SCBDIGI (กลุ่มหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่รวมถึงกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากกระแส AI Boom) และ SCBPGF (กลุ่มหุ้นคุณค่าและยังมีคุณภาพสูงทั่วโลก)

✅️ ตลาดหุ้นเวียดนามที่ราคาปรับตัวลงแรงช่วงสั้น แต่เป็นโอกาสสะสมลงทุนลุ้นการฟื้นตัว จากแนวโน้มเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนที่ยังเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ระดับมูลค่าอยู่ในโซนถูกเทียบอดีตและภูมิภาค กองทุนแนะนำ SCBVIET(A)

✅️ ตลาดหุ้นอินเดียมีแนวโน้มเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนเติบโตแข็งแกร่ง โดยการพึ่งพึงการบริโภคภายในประเทศเป็นจุดแข็งที่จะช่วยให้ทนทานต่อสภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และยังมีเม็ดเงินลงทุนต่างชาติสนับสนุนจนกว่าจะเห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจนกว่านี้ของเศรษฐกิจจีน ขณะที่ราคายังอยู่ในโมเมนตัมขาขึ้นและระดับมูลค่าอยู่ในโซนที่ไม่แพงจนเกินไป กองทุนแนะนำ SCBINDEQ(A)

 

แหล่งที่มา : SCBAM

แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก