📈Market update📈

📍 Major Equity Indices:

S&P500+1.15%,

NASDAQ+1.65%,

STOXX600+0.05%,

Nikkei225-0.49%,

HSCEI+2.08%,

CSI300+0.94%,

KOSPI-0.03%,

NIFTY50+0.68%,

SET-0.49%,

VNINDEX+0.20%

📍 Sector Return: Consumer Discretionary-XLY(+2.15%), Technology-XLK(+1.97%), Communication Services-XLC(+1.69%), Healthcare -XLV(-0.23%)

📍 USBY2Y 4.76%,USBY10Y 3.76%, WTI $67.70/bbl, Gold $1,913.69/oz, DXY 102.49

📍 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาปรับตัวขึ้นอีกครั้ง นำโดยกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีและกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่รายงานเมื่อคืนโดยรวมออกมาดีกว่าคาด ช่วยคลายความกังวลเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่กลุ่มหุ้นท่องเที่ยวปรับตัวคึกคักเช่นกันหลังสายการบิน Delta ปรับคาดการณ์กำไรทั้งปีขึ้น

📍 ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด โดยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐานเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าที่ไม่รวมเครื่องบินและสินค้าด้านอาวุธ เป็นตัวบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ เพิ่มขึ้นสวนทางตลาดคาดและเดือนก่อนหน้า (0.6% vs -0.1% vs -0.6%MoM) ส่วนยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าคาดและเดือนก่อนหน้า (763k vs 675k vs 680k) ขณะที่ผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ จาก Conference Board เดือนมิ.ย. ปรับตัวสูงกว่าคาดและเดือนก่อนหน้า (109.7 vs 104.0 vs 102.5) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ ม.ค. 2022

📍 ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยรวมออกมาดีกว่าคาดและดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าช่วยตอกย้ำมุมมองของเราว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะยังอยู่ในช่วงปลายวัฏจักรต่อไปและยังไม่ถดถอยในระยะอันใกล้

📍 สายการบิน Delta Air Lines ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรรวมถึงกระแสเงินสดของทั้งปี 2023 โดย CEO Ed Bastian กล่าวว่างบไตรมาสสองที่มีกำหนดจะรายงานในเดือนหน้าอาจเป็นไตรมาสสองที่มีกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัท หลังความต้องการเดินทางโดยเฉพาะระหว่างประเทศยังแข็งแกร่งต่อเนื่องแม้เศรษฐกิจโดยรวมจะชะลอตัวก็ตาม นอกจากนี้บริษัทยังได้รับประโยชน์จากราคานํ้ามันที่ปรับตัวลงช่วยลดต้นทุนในการขนส่งอีกทาง

📍 การรายงานดังกล่าวช่วยสนับสนุนคำแนะนำของเราต่อการลงทุนในกลุ่มหุ้นท่องเที่ยวผ่านกองทุน SCBTRAVEL

📍 ตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานปรับตัวบวกลบสลับกันไป ตลาดหุ้นจีนกลับมาปรับตัวขึ้นโดดเด่นอีกครั้ง หลังนายกจีนออกมาให้มุมมองบวกต่อการเติบโตของเศรษฐกิจจีน ขณะที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังพักฐานต่อเนื่องเช่นเดียวกับตลาดหุ้นไทยที่ยังขาดความแน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาล

📍 นายกรัฐมนตรีจีนนายหลี่ เฉียง กล่าวในการประชุม World Economic Forum ณ เมืองเทียนจินว่าเศรษฐกิจจีนในไตรมาสสองมีแนวโน้มขยายตัวดีกว่าไตรมาสหนึ่งและคาดว่าตลอดทั้งปีนี้จะขยายตัวได้ตามเป้าภาครัฐที่ 5%YoY

📍 จากถ้อยแถลงข้างต้นถือเป็นอีกสัญญาณบวกว่ารัฐบาลจีนยังคงให้ความสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยอาจมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ดังนั้นเรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนตลาดหุ้นจีนในระยะกลาง-ยาว

📍 เวียดนามมีแผนปรับลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จาก 10% ลงเหลือ 8% ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เดือน ก.ค.- ธ.ค. เพื่อสนับสนุนการบริโภคภายในประเทศเพิ่มเติมติดตามการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญเวียดนามอย่าง GDP, Retail Sales, Industrial Production และ CPI ในสัปดาห์นี้

📍 มาตรการดังกล่าวถือเป็นอีกหนึ่งนโยบายทางการคลังที่จะเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากการลดดอกเบี้ยนโยบายไปในช่วงก่อนหน้านี้ เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนตลาดหุ้นเวียดนามอย่างต่อเนื่องจากระดับมูลค่าถูกเทียบตัวเองในอดีต และมาตรการจากภาครัฐทั้งการเงินและการคลังคาดจะช่วยหนุนการฟื้นตัวเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนในระยะถัดไป

🔔Outlook & Implication

▪️ตลาดหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว

ตลาดหุ้นเริ่มมีการปรับฐานลงมาบ้าง โดยเฉพาะกลุ่มหุ้นเทคโนโลยี 🌟เรามองเป็นโอกาสทยอยแบ่งไม้สะสมในกลุ่มหุ้นคุณภาพ (SCBGQUAL) และกลุ่มหุ้นเทคโนโลยี (SCBNDQ/ SCBDIGI) ที่คาดว่าจะ outperform ในสภาวะดอกเบี้ยสูงค้างยาวและเศรษฐกิจอยู่ในช่วงปลายวัฏจักร

▪️กลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวและมีการเติบโตที่น่าสนใจในระยะกลาง-ยาว 🌟1) SCBTRAVEL กองทุนที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนและช่วง High season การท่องเที่ยวในฝั่งตะวันตกคาดช่วยหนุนการเติบโตเชิงฤดูกาล 🌟2) SCBEV  กองทุนที่ได้ประโยชน์จากมาตรการสนับสนุน EV รอบใหม่ของจีนและ Inflation Reduction Act ของสหรัฐฯ ที่ยังดำรงอยู่ต่อไปหลังผ่านการเพิ่มเพดานหนี้

▪️ตลาดนํ้ามันเรายังมีมุมมองแกว่งตัวในกรอบกว้าง 🌟เรายังมองเป็นโอกาสซื้อเก็งกำไรแถวระดับ $65-70/bbl และขายทำกำไรแถวระดับ $75-80/bbl บนสมมุติฐานของเราว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะไม่เข้าสู่เศรษฐกิจถดถอยในไตรมาสสามและเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวดีขึ้น กองทุนแนะนำ SCBOIL

แหล่งที่มา : SCBAM

แหล่งข้อมูล : บลน.เว็ลธ์ เมจิก