Thailand Web Stat

SCBAM : Morning Update ประจำวันที่ 26 เมษายน 2566

📈Market update

– Major Equity Indices: S&P500-1.58% นำโดย Materials-XLB(-2.17%), Technology-XLK(-2.13%), Consumer Discretionary-XLY(-1.98%) NASDAQ-1.98%, STOXX600-0.41%, Nikkei225+0.09%, HSCEI-1.96%, CSI300-0.50%, KOSPI-1.37%, NIFTY50+0.15%, SET-1.13%, VNINDEX-0.63%

– USBY2Y 3.95%,USBY10Y 3.40%, WTI $77.33/Barrel, Gold $2,009/oz, DXY 101.84

– ตลาดหุ้นสหรัฐฯ/ยุโรปปรับตัวลงแรงจากความระมัดระวังก่อนการรายงานผลประกอบการของกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่และปัญหาสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ระดับภูมิภาคที่กลับเข้ามาสร้างความกังวลอีกครั้ง รวมถึงการรายงานงบที่น่าผิดหวังของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ยุโรป

– First Republic Bank เปิดเผยยอดเงินฝากลดลง 40.8% สู่ระดับ 1.045 แสนล้านดอลลาร์ใน 1Q23 ต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดที่ระดับ 1.450 แสนล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ราคาหุ้นลงแรงกว่า 49% และความกังวลต่อปัญหาสภาพคล่องในธนาคารพาณิชย์ระดับภูมิภาคยังคงดำเนินต่อไป

– หุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคขนาดใหญ่ Nestle, McDonald’s และ PepsiCo รายงานรายได้และกำไรดีกว่าคาดแสดงถึงความต้องการของผู้บริโภคท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจชะลอตัว

– Microsoft รายงานรายได้และกำไรดีกว่าคาด แม้อัตราการเติบโตของ Azure และ Cloud services จะลดลงจาก 31% เป็น 27% แต่ก็ยังถือว่าเติบโตในระดับสูงกว่าคาด นอกจากนี้บริษัทยังให้ Positive Guidance สำหรับผลประกอบการในไตรมาสถัดไป โดยมีแผนจะนำ AI เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผลิตภัณฑ์ที่ให้บริการอยู่เช่น Bing, Microsoft office และ Cloud services

– Alphabet รายงานรายได้และกำไรดีกว่าคาด โดยกลุ่มธุรกิจ Cloud ซึ่งมีสัดส่วนรายได้กว่า 10% ของรายได้ทั้งหมด เริ่มมีกำไรเป็นไตรมาสแรกแล้วหลังจากรายงานขาดทุนมาตลอด 3 ปีตั้งแต่มีการรายงานงบของกลุ่มธุรกิจนี้

– ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ ตลาดหุ้นจีนยังคงถูกแรงกดดันจากความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์อย่างต่อเนื่องรวมถึงความกังวลของนักลงทุนบางส่วนว่าทางการจีนอาจชะลอการดำเนินนโยบายการเงินและการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจลงหลังตัวเลขเศรษฐกิจจีนล่าสุดออกมาฟื้นตัวแข็งแกร่ง

 

📌Investment Strategy

▪️ตลาดกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว

ติดตามผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนสหรัฐฯ หากรายงานกำไรต่ำกว่าคาดหรือให้ Guidance เชิงลบ อาจส่งผลกดดันตลาดหุ้นปรับตัวลงต่อในระยะสั้น

▪️สำหรับตลาดหุ้นเอเชีย เรามีมุมมองเชิงบวกจากแนวโน้มการเติบโตทั้งเศรษฐกิจและกำไรบริษัทที่คาดว่าจะฟื้นตัวต่อเนื่องในปีนี้ นอกจากนี้ค่าเงินดอลลาร์ที่มีแนวโน้มทรงตัว/อ่อนค่า จากการที่ Fed ใกล้ขึ้นดอกเบี้ยถึงจุดสูงสุด คาดว่าจะช่วยหนุน กระแสเงินไหลกลับเข้าฝั่งเอเชียมากขึ้น แนะนำทยอยสะสม กองทุนหุ้นเอเชียไม่รวมญี่ปุ่น (SCBAEM, SCBAXJ(A)

▪️เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นจีน ด้วยระดับมูลค่าที่ไม่แพงและคาดหวังการฟื้นตัวหลังเปิดเมืองซึ่งเราคาดว่าจะเห็นภาพชัดเจนมากขึ้นในไตรมาสสองนี้ โดยมองความผันผวนจากความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้นอาจทำให้มีความผันผวนสูงขึ้นระยะสั้น ถ้าใครมีอยู่สามารถถือลงทุนต่อ แต่ถ้ายังไม่มีและรับความเสี่ยงได้จำกัดแนะนำให้ wait & see

 

แหล่งที่มา : SCBAM

แหล่งข้อมูล : บลน.เว็ลธ์ เมจิก