🟣Morning Update by SCBAM

📊 Major Equity Indices: S&P500+1.20%, NASDAQ+1.59%, Russell2000+1.79%

STOXX600+1.09%, Nikkei225+0.30%, HSCEI+2.12%, CSI300-0.70%, KOSPI-0.24%, NIFTY+0.14%, SET+0.59%, VNINDEX-1.08%, TH Reits-0.07%, SG Reits+1.81%

📊 Sector Return: Communication Services-XLC(+1.52%), Technology-XLK(+1.48%), Health Care-XLV(+1.30%), Utilities-XLU(+0.47%), Consumer Staples-XLP(+0.28%), Materials-XLB(-0.86%)

📊 USBY2Y 4.93%, USBY10Y 4.60%, WTI $83.36/bbl, Gold $2,322.02/oz, DXY 105.68

📰 ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดบวกเมื่อคืนนี้ หลังหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ปรับตัวขึ้นโดดเด่น บนความคาดหวังของการรายงานผลประกอบการที่คาดว่าจะเติบโตได้ต่อเนื่อง ด้าน Bond Yield 10 ปีที่ปรับตัวลดลง เป็นอีกปัจจัยหนุนให้ตลาดหุ้นฟื้นตัวเช่นกัน

📰 Counterpoint Research รายงานว่า ยอดขาย iPhone ในจีน ลดลงกว่า (19%YoY) ในช่วง 1Q2024 โดยได้รับผลกระทบจากยอดขายสมาร์ทโฟนของ Huawei ที่เพิ่มขึ้นกว่า 69.7%YoY หลัง Huawei เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่อย่าง Mate 60 ซึ่งมี Chip ระดับ High-End และสามารถรองรับการเชื่อมต่อ 5G

📰 สหรัฐฯรายงานตัวเลข New Home Sales เดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 8.8% YoY สูงกว่าที่คาด สู่ระดับ 693,000 หน่วย นับเป็นระดับที่สูงที่สุดตั้งเเต่เดือนก.ย. ปีก่อน  โดยปัจจัยหลักมาจากสินค้าคงคลังที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ราคาขายลดลง

📰 สหรัฐฯรายงานดัชนี S&P Global Flash Composite Index เดือนเม.ย. ลดลง 1.2 จุดจากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 50.9  จุด นับว่าเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบสี่เดือน บ่งชี้ให้เห็นถึงเเนวโน้มการขยายตัวของกิจกรรมทางธุรกิจในสหรัฐฯ ที่อาจจะเริ่มชะลอตัวลง

⏭️ การปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯในช่วงที่ผ่านมา เรามองเป็นโอกาสที่จะเเบ่งไม้เข้าทยอยสะสมได้ ถึงเเม้การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดอาจส่งสัญญาณถึงการฟื้นตัวที่ไม่ชัดเจนมากนัก เเต่คาดว่าด้วยระดับราคาที่ปรับลงมาระดับหนึ่งเเล้ว บวกกับงบการเงินของบริษัทส่วนใหญ่หากรายงานออกมาดีเเละมีเเนวโน้มที่จะเติบโตต่อเนื่อง โอกาสที่ตลาดหุ้นจะปรับตัวขึ้นต่อได้ในระยะสั้นก็มีสูงขึ้น

📰 ตลาดหุ้นยุโรป STOXX 600 ปิดบวกเมื่อคืนนี้ สอดคล้องกับตลาดหุ้นสหราชอาณาจักร  FTSE 100 ที่สามารถปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ได้ในช่วงการซื้อขายระหว่างวัน หลังได้ปัจจัยหนุนจากค่าเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลง ท่ามกลางความคาดหวังว่าธนาคารกลางอังกฤษจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางปีนี้

📰 HCOB Flash Eurozone Composite PMI เดือนเม.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าคาดเเละเดือนก่อนหน้าที่ (51.4 vs 50.7 vs 50.3) นับเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบเกือบหนึ่งปี รวมถึงยังคงอยู่ในโซนขยายตัวเป็นเดือนที่สองติดต่อกันอีกด้วย การฟื้นตัวนี้ได้รับแรงหนุนจากภาคบริการที่แข็งแกร่งของยุโรป และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเยอรมนี

📰 ตลาดหุ้นจีนฮ่องกงปรับตัวขึ้นได้โดดเด่นกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคหลัง UBS ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น Overweight ในตลาดหุ้นฮ่องกง จากความคาดหวังการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและกำไรบริษทจดทะเบียน ขณะที่ระดับมูลค่าไม่แพง

⏭️ เรายังมีมุมมองเป็นกลางต่อการลงทุนในตลาดหุ้นจีน แต่เริ่มเห็นสัญญาณเชิงบวกมากขึ้น หากยังเห็นพัฒนาการเชิงบวกอย่างต่อเนื่อง อาจช่วยลุ้นการฟื้นตัวที่ชัดเจนขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะตลาดหุ้นฮ่องกง ด้านมุมมองทางเทคนิคดัชนี HSCEI อาจแกว่งตัวผันผวนออกข้างไปก่อนระยะสั้น หากทะลุแนวต้านที่ 6,045 จุดได้ จะช่วยหนุนโมเมนตัมบวกต่อการฟื้นตัว

🔰Outlook & Implication

✅️ ระยะสั้นสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้จำกัด อาจพักเงินในกองทุนตลาดเงิน (SCBMONEY), ตราสารหนี้ระยะสั้น (SCBSFFPLUS), ตราสารหนี้ต่างประเทศที่ได้ผลบวกจากการแข็งค่าของ USD (SCBFST) นอกจากนี้ สินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ (SCBGOLD) และน้ำมัน (SCBOIL) ก็เป็นทางเลือกที่ช่วยลดผลกระทบจากความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ทั้งนี้ เนื่องจากราคาทองคำ ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างเร็วในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น หากสถานการณ์พลิกกลับ ก็อาจทำให้ราคาผันผวนสูงได้เช่นกัน

✅️ ระยะสั้นสำหรับตลาดหุ้นโลกเน้นกองทุนที่มีความผันผวนต่ำ (SCBLEQ) คาดมีโอกาสปรับตัวลงในระดับที่น้อยกว่าตลาดหุ้นโลกโดยรวมในช่วงตลาดพักฐาน

✅️ ระยะกลาง 3-6 เดือน เรายังมองบวกบนสมมุติฐานหลักที่ว่าเศรษฐกิจโลกไม่ถดถอยและ Fed เริ่มลดดอกเบี้ยในปีนี้ โดยทิศทางตลาดหุ้นคาดว่าจะถูกขับเคลื่อนจากการเติบโตกำไรบริษัทจดทะเบียนเป็นหลัก ดังนั้นยังคงคำแนะนำ Stay Invested  ต่อไป แต่สำหรับนักลงทุนที่ไม่อยากรับความผันผวนสูงระยะสั้นอาจ Wait & See เพื่อรอประเมินสถาณการณ์ไปก่อน แต่นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและทนความผันผวนระยะสั้นได้ มองเป็นจังหวะลงทุนเพิ่มในธีมการลงทุนหลักของเราได้แก่ “AI Spreading” (SCBDIGI), “Asia in Focus” (SCBKEQTG, SCBVIET) และ “Attractive Yield Plays” (SCBINC)

แหล่งที่มา : SCBAM

แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก