Thailand Web Stat

SCBAM : Morning Update ประจำวันที่ 23 สิงหาคม 2566

📍Market update📍

📊 Major Equity Indices: S&P500-0.28%, NASDAQ+0.06%,STOXX600+0.68%, Nikkei225+0.92%, HSCEI+1.11%, CSI300+0.77%, KOSPI+0.28%, NIFTY50+0.01%, SET+1.29%, VNINDEX+0.06%

📊 Sector Return: Real Estate-XLRE(+0.31%), Utilities-XLU(+0.29%), Consumer Discretionay-XLY(+0.15%), Energy-XLE(-0.77%), Financial-XLF(-0.94%)

📊 USBY2Y 5.05%, USBY10Y 4.32%, WTI $80.35/bbl, Gold $1,897.48/oz, DXY 103.56

📰 ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับตัวลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ นำโดยกลุ่ม ค้าปลีก ที่ปรับตัวลดลงสูงสุด กว่า 2% การปรับตัวลงของกลุ่มค้าปลีกก่อนการรายงานงบในกลุ่ม Peloton, Foot Locker, Kohl’s เเละ Abercrombie & Fitch รวมถึงกลุ่มเทคโนโลยีอย่าง Nvidia และ Snowflake ในคืนนี้ ในขณะที่ Bond Yield 10 ปีสหรัฐฯยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง นักลงทุนติดตามการประชุม Jackson Hole Meeting วันศุกร์นี้

📰 ยอดขายบ้านสหรัฐฯเดือน ก.ค. หดตัวลง 2.2% MoM  ถูกกดดันต่อเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูง ล่าสุด 30-year Mortgage Rates ทำจุดสูงนับตั้งแต่ปี 2000 อยู่ที่ 7.48%

📰 S&P Global Ratings ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารหลายแห่งในสหรัฐ ซึ่งห่างกันเพียง 2 สัปดาห์หลังจาก Moody’s Investor Services ได้ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคาร 10 แห่งในสหรัฐ

⏭️  ตลาดหุ้นสหรัฐฯยังคงอยู่ในช่วงพักฐาน โดยปัจจุบันยังขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่ อีกทั้งนักลงทุนยังคงมีความกังวลต่ออัตราเงินเฟ้อที่มีโอกาสเร่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังกดดัน Fed ให้คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับสูง รวมถึงการปรับตัวขึ้นของ Bond Yield 10 ปี สหรัฐฯคอยกดดันกลุ่มหุ้นเติบโตที่คาดหวังกระแสเงินสดในอนาคตอีกด้วย ในขณะที่การรายงานตัวเลขยอดขายบ้านที่หดตัวในเดือนล่าสุด สะท้อนให้เห็นถึงการจับจ่ายของผู้บริโภคที่ชะลอตัว ซึ่งเป็นผลมาจากความกังวลที่มีต่อระดับดอกเบี้ยในปัจจุบัน

📰 ตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานปรับตัวขึ้นได้ทั้งหมด โดยสาเหตุหลักน่าจะมาจากการฟื้นตัวของราคาในระยะสั้น หลังจากโดนแรงเทขายกดดันอย่างต่อเนื่อง

📰 Baidu รายงานผลประกอบการ Q2/2566 ได้ดีกว่าที่คาด โดยมีรายได้สูงกว่าที่คาด (3.406 vs 3.328) หมื่นล้านหยวน ด้านรายได้จากการตลาดทางออนไลน์ก็เพิ่มขึ้น 15% ในขณะที่กำไร Q2/2566 ก็ทำได้ดีกว่าช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อนอยู่ที่ (22.55 vs 15.79) หยวนต่อหุ้น

⏭️  ในระยะสั้นเราเริ่มเห็นการฟื้นตัวของราคาหุ้นจีน หลังจากตลาดโดนแรงเทขายอย่างต่อเนื่องจากข่าวความกังวลที่เกิดขึ้นในกลุ่มอสังหาฯ ในปัจจุบันราคาหุ้นจีนยังคง laggard ตลาดหุ้นทั่วโลกค่อนข้างมาก รวมถึงระดับ Valuation ปัจจุบันที่ไม่แพง ทำให้เรามอง Downside ค่อนข้างจำกัด เพียงแต่ปัจจัยสนับสนุนทางเศรษฐกิจยังคงอ่อนแอ รวมถึงมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐและภาคการเงินที่ออกมาล่าสุด ยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นและดึงดูดนักลงทุนให้กลับมาลงทุนได้

📰 Bond Yield 10 ปีของญี่ปุ่น ปรับตัวขึ้นแตะ 0.66% ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2557 ทำให้มีการคาดการณ์เพิ่มมากขึ้นว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจดำเนินการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลนอกกำหนดการ เพื่อชะลอการปรับขึ้นดังกล่าว

📰 นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เกินกว่า 375 เสียง โดยมีเสียงสนับสนุนจากพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล 11 พรรค 314 เสียง รวมกับเสียงของ สว.ที่โหวตให้อีกบางส่วน

📰 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงสินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ ใน Q2/2566 ว่า ระบบธนาคารพาณิชย์มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ โดยสินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ Q2/2566 หดตัวเล็กน้อยที่ 0.4%YoY จากการทยอยชำระคืนหนี้ของภาคธุรกิจ หลังเร่งขยายตัวต่อเนื่องเพื่อเสริมสภาพคล่องในช่วงโควิด โดยเฉพาะการชำระคืนสินเชื่อ SMEs (รวม soft loan) และภาครัฐ ขณะที่ธุรกิจขนาดใหญ่ส่วนหนึ่งระดมทุนผ่านการออกตราสารหนี้ ประกอบกับมีการบริหารจัดการคุณภาพหนี้ของธนาคารพาณิชย์

⏭️  เราคาดว่าการมาของรัฐบาลเพื่อไทยจะเป็นผลดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย จากนโยบายที่ค่อนข้างสนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจและการใช้จ่ายของภาครัฐโดยตรง ทั้งนี้หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองจนทำให้เกิดความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาล จะส่งผลกระทบต่อการเบิกจ่ายงบประมาณและกดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง

 

🔰 Outlook & Implication

✅️ ตลาดหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนระยะกลาง 3-6 เดือน หลังรายงานงบ 2Q23 ที่ออกมาส่วนใหญ่ดีกว่าคาดและมีโอกาสถูกปรับคาดการณ์กำไรขึ้นต่อในระยะถัดไป แต่ระยะสั้นอาจมีความผันผวนเพิ่มสูงขึ้นจากความเสี่ยงตลาดพักฐานหลังตลาดหุ้นขึ้นมาเร็วและแรงก่อนหน้า

✅️ กรอบการลงทุนระยะกลาง 3-6 เดือนเรามองโอกาสในการทยอยสะสมช่วงตลาดปรับตัวลงในกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ และทั่วโลก (SCBNDQ/ SCBDIGI) จากแนวโน้มเงินเฟ้อชะลอตัวลง (Disinflation) หนุนวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นใกล้จบรอบและ AI Boom หนุนคาดการณ์กำไรเติบโต

✅️ กรอบการลงทุนระยะกลาง 3-6 เดือนกลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวและมีการเติบโตที่น่าสนใจในระยะกลาง-ยาว 1) SCBTRAVEL กองทุนที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนและช่วง High season การท่องเที่ยวในฝั่งตะวันตกคาดช่วยหนุนการเติบโตเชิงฤดูกาล 2) SCBEV  กองทุนที่ได้ประโยชน์จากมาตรการสนับสนุน EV รอบใหม่ของจีนและ Inflation Reduction Act ของสหรัฐฯ ที่ยังดำรงอยู่ต่อไปหลังผ่านการเพิ่มเพดานหนี้

 

แหล่งที่มา : SCBAM

แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก