Thailand Web Stat

SCBAM : Morning Update ประจำวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567

🟣Morning Update by SCBAM

📊 Major Equity Indices: S&P500-0.60%, NASDAQ-0.92%, STOXX600-0.10%, Nikkei225-0.28%, HSCEI+0.63%, CSI300+0.21%, KOSPI-0.84%, NIFTY+0.34%, SET-0.45%, VNINDEX+0.42%, TH Reits-0.16%, SG Reits-0.08%

📊 Sector Return: Consumer Staples-XLP(+1.05%), Utilities-XLU(-0.07%), Communication Services-XLC(-0.15%), Energy-XLE(-0.91%), Consumer Discretionary-XLY(-0.94%), Technology-XLK(-1.02%),

📊 USBY2Y 4.61%, USBY10Y 4.28%, WTI $78.18/bbl, Gold $2,024.41/oz, DXY 104.08

📰ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลดลงนำโดยหุ้น Nvidia ที่ปรับตัวลดลงกว่า 4% หลังเริ่มเห็นเเรงเทขายทำกำไรเกิดขึ้น ก่อนที่จะมีการรายงานงบการเงินในวันพุธนี้ โดยเบื้องต้นคาดการณ์ว่าผลประกอบการจะยังคงเติบโตได้ในระดับสูง

📰ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลงกว่า 1% จากเเรงเทขายทำกำไร หลังราคาปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบกว่า 3 เดือนไปเมื่อสัปดาห์ก่อนจากปัญหาความขัดเเย้งในตะวันออกกลางที่ยังคงรุนเเรง เเละยืดเยื้อ

⏭️ ตลาดหุ้นสหรัฐฯเริ่มขาดปัจจัยบวกในระยะสั้นหลังการรายงานงบใกล้ที่จะสิ้นสุด บวกกับราคาที่ปรับขึ้นมารอระดับหนึ่งเเล้ว ทำให้ระยะสั้นตลาดอาจจะค่อนข้างผันผวน เเละมีโอกาสปรับย่อตัวลงได้ อีกทั้งระดับมูลค่าเฉลี่ยของกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ปัจจุบันที่ระดับ Forward P/E 30 เท่า ส่งผลให้นักวิเคราะห์บางส่วนเริ่มมองว่าค่อนข้างตึงตัว โอกาสที่หุ้นจะปรับขึ้นต่อจาก Multiple Expansion จึงค่อนข้างยากหากไม่มีการปรับฐานก่อน เเนะนำเป็นรอจังหวะทยอยสะสมในช่วงการปรับฐานได้ เพราะเศรษฐกิจโดยรวมยังคงเเข็งเเกร่ง รวมถึงเเนวโน้มผลประกอบการที่ยังคงเติบโต

📰 Amazon กำลังจะถูกนำเข้ารวมในดัชนี DJI (Price Weighted Index) แทนที่ Walgreens โดยจะเเล้วเสร็จก่อนวันที่ 26 ก.พ.นี้ ตามประกาศจาก S&P Dow Jones Indices ส่งผลให้ Amazon ปรับตัวขึ้นกว่า 1% สวนทางกับ Walgreens ที่ปรับตัวลดลงกว่า 3% (ในช่วง After Hours)โดยการปรับเปลี่ยนดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก Walmart มีการทำ Stock Split เเบบ 3:1 ส่งผลให้น้ำหนัก Walmart ในดัชนีลดลง

⏭️ การปรับเปลี่ยนดังกล่าว จะเปิดโอกาสให้นักลงทุนมี exposure ที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มค้าปลีกโดยรวม ทั้งออนไลน์เเละออฟไลน์ หากลงทุนเฉลี่ย ใน DJI อีกทั้ง ยังส่งผลบวกต่อหุ้น Amazon เเละกลุ่มค้าปลีกโดยตรงอีกด้วยจากกระเเสเงินลงทุนที่จะไหลเข้ามาเพิ่ม

📰 ตลาดหุ้นจีนปิดบวกได้เล็กน้อยหลัง PBOC มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปี เพื่อหวังกระตุ้นกลุ่มอสังหาฯ ขณะที่ ตลาดหุ้นเอเชียอื่นๆ ส่วนใหญ่ปิดปรับตัวลดลง หลังเผชิญเเรงขายทำกำไร

⏭️ การปรับลดดอกเบี้ย LPR 5 ปีลง 0.25% ถือว่า สูงกว่า Reuters Poll ที่คาดว่าจะลดราว 0.05-0.15% คาดว่า จะสามารถช่วยกระตุ้นการซื้อบ้านเเละลดภาระค่าใช้จ่ายภาคครัวเรือนได้ โดยการปรับลดดอกเบี้ยที่สูงกว่าคาดนี้ ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกที่สะท้อนถึงการดำเนินนโยบายลักษณะเชิงรุกมากขึ้น หลังจากตลาดค่อนข้างผิดหวังกับการดำเนินนโยบายเเบบเชิงรับที่ล่าช้าในช่วงที่ผ่านมา ด้านมุมมองการลงทุนในระยะสั้น เรามองว่าหุ้นจีนอาจดีดตัวขึ้นได้จากการเกิด Technical Rebound เเต่ในภาพระยะยาวอาจต้องใช้เวลา เพราะต้องรอเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงมาตรการช่วยเหลือเชิงรุกที่มากขึ้น เเละ ชัดเจนกว่านี้ ถึงจะสามารถฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุนให้กลับมาได้

🔰 Outlook & Implication

✅️ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปัจจุบันยังคงมี Sentiment เชิงบวกจากเเนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังคงเติบโต ภาคแรงงานที่ยังแข็งแกร่ง เงินเฟ้อที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงต่อเนื่อง ความชัดเจนของการปรับลดดอกเบี้ย Fed มีมากขึ้น รวมถึงงบการเงินที่ยังคงทำได้ดีกว่าคาดการณ์ แนะนำกองทุนดัชนีหุ้นสหรัฐฯ SCBS&P500A, SCBNDQ(A) ส่วน Active Fund เเนะนำทยอยสะสมกอง SCBDIGI ที่มีการถือครองที่หลากหลาย ผสมผสานทั้ง Big Tech และหุุ้น Tech ขนาดกลาง-เล็ก อีกทั้งยังเปิดโอกาสในการเติบโตจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว เเละการมาของกระเเส AI Spreading อีกด้วย

✅️สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงปานกลาง-สูงแนะนำลงทุนกองทุนตราสารหนี้โลก SCBINCA ที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากราคาตราสารหนี้ที่มักปรับตัวขึ้นต่อเนื่องหลัง Fed จบรอบดอกเบี้ยขาขึ้น, อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ที่อยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีและสำหรับกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน โดยเฉพาะยามที่ความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มสูงขึ้น

 

แหล่งที่มา : SCBAM

แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก