Thailand Web Stat

SCBAM : Morning Update ประจำวันที่ 19 ธันวาคม 2566

🟣Morning Update by SCBAM

📍Market update📍

📊 Major Equity Indices: S&P500+0.45%, NASDAQ+0.61%, STOXX600-0.27%, Nikkei225-0.64%, HSCEI-1.16%, CSI300-0.36%, KOSPI+0.13%, NIFTY-0.18%, SET+0.17%, VNINDEX-0.95%, TH Reits+0.08%, SG Reits-1.57%

📊 Sector Return: Consumer Services-XLC(+0.99%), Consumer Discretionary-XLY(+0.44%), Consumer Staples-XLP(+0.28%), Energy-XLE(-0.14%), Utilities-XLU(-1.16%), Real Estate-XLRE(-1.35%)

📊 USBY2Y 4.46%, USBY10Y 3.94%, WTI $72.67/bbl, Gold $2,026.51/oz, DXY 102.55

📰 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 1 ปี ได้ sentiment เชิงบวก หลัง Fed ส่งสัญญาณจบรอบดอกเบี้ยขาขึ้น แม้ว่ากรรมการ Fed บางท่านออกมาให้ความเห็นว่าเร็วเกินไปที่ Fed จะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. ตามที่ตลาดคาด

📰 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้าน เดือนธ.ค. ปรับตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้า เป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน

📰 ตลาดคาดการณ์ Fed ปรับลดดอกเบี้ยในปีหน้าลงถึง 6 ครั้ง โดย CME FedWatch Tool คาดว่า Fed จะเริ่มปรับลดดอกเบี้ยลงในเดือนมี.ค. และปรับลดลงต่อเนื่องครั้งละ 25 bps รวม 6 ครั้ง สอดคล้องกับ Goldmam Sachs ที่คาดว่า Fed จะปรับลดดอกเบี้ยลงครั้งละ 25 bps รวม 3 ครั้งในครึ่งปีแรก และอีก 2 ครั้งในช่วงครึ่งหลังของปี

⏭️ การที่ตลาดและนักวิเคราะห์เริ่มคาดการณ์ว่า Fed จะปรับลดดอกเบี้ยในปีหน้าลงราว 5-6 ครั้ง ซึ่งแตกต่างจาก Dot plot ค่อนข้างมาก เรามองว่า อาจเป็นความเสี่ยงต่อตลาดหุ้นในระยะถัดไป หากเงินเฟ้อปรับลดลงช้า และทำให้ Fed ต้องคงดอกเบี้ยนานกว่าคาด ทั้งนี้ในระยะสั้นตลาดหุ้นยังคงได้แรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีกว่าคาด และตัวเลข GDP สหรัฐฯ ที่ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง ล่าสุด GDPNow ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP 4Q66 ขยายตัว 2.6%QoQ

📰 ตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานส่วนใหญ่ปรับตัวลง จากความกังวลว่า Fed จะลดดอกเบี้ยลงน้อยกว่าคาด จึงเกิดแรงเทขายในตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาดีในช่วงก่อนหน้า ขณะที่ตลาดหุ้นจีน HSCEI ปรับตัวลงแรง จากข่าวการเสียชีวิตของผู้ก่อตั้งบริษัท SenseTime ซึ่งเป็นบริษัท AI ในจีน

📰 นักลงทุนจับตาผลการประชุม BOJ ในวันนี้ ซึ่งคาดว่าจะยังคงดอกเบี้ยติดลบตามเดิม ทั้งนี้จากการสำรวจของ Bloomberg จากนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ คาดว่า BOJ จะยุตินโยบายดอกเบี้ยติดลบในช่วงเดือนเม.ย.ปีหน้า

⏭️ เรามองว่า หากผลการประชุม BOJ ในวันนี้มีการส่งสัญญาณการกลับทิศนโยบายการเงิน อาจส่งผลกระทบให้เงินเยนแข็งค่าขึ้น และกดดันตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลงได้ในระยะสั้น ทั้งนี้เศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวได้ดี และปัจจัยหนุนในเรื่องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ยังคงเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นญี่ปุ่นในระยะกลาง-ยาว จึงยังมีมุมมองเป็นกลางต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่น

📰 ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นเกือบ 2% จากกลุ่มฮูตีในเยเมนโจมตีเรือขนส่งสินค้าในทะเลแดง ส่งผลให้มีการปิดการขนส่งน้ำมันหลายบริษัทในเส้นทางดังกล่าว จึงเกิดความกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันอาจตึงตัวขึ้น

🔰 Outlook & Implication

✅️ ระยะสั้นคาดตลาดอาจพักฐานหรือแกว่งตัวในกรอบ หลังตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นมาเร็วและแรง แต่เริ่มขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่ อย่างไรก็ตามเรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อภาพระยะกลาง 1-2 เดือน จากปัจจัยมหภาคเริ่มผ่อนคลายและสถิติในอดีตเชิงฤดูกาลสนับสนุนการฟื้นตัว

✅️ สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงปานกลาง-สูงแนะนำลงทุนกองทุนตราสารหนี้โลก SCBINCA ที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากราคาตราสารหนี้ที่มักปรับตัวขึ้นต่อเนื่องหลัง Fed จบรอบดอกเบี้ยขาขึ้น, อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ที่อยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีและสำหรับกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน โดยเฉพาะยามที่ความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มสูงขึ้นในปีหน้า

✅️ กลุ่มหุ้นคุณภาพสูงที่คาดว่าจะสามารถทนทานในสภาวะดอกเบี้ยสูงและช่วงปลายวัฏจักรเศรษฐกิจได้ดีกว่าตลาดโดยรวมได้แก่ SCBGQUAL, SCBPGF

✅️ ตลาดหุ้นไทยถึงแม้จะปรับตัวลงแย่กว่าภูมิภาคและหุ้นทั่วโลกตลอดทั้งปี แต่กลับมองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมเพื่อลุ้นการฟื้นตัวในปีหน้าจากปัจจัยสนับสนุน 1) ทิศทางหลัง Fed จบรอบดอกเบี้ยขาขึ้นแนวโน้มค่าเงินบาทแข็งค่าและตลาดหุ้นไทยมักฟื้นตัวขึ้นได้ 2) แนวโน้มเศรษฐกิจขยายตัวสูงขึ้นจากปีนี้ สวนทางหลายประเทศทั่วโลกที่จะชะลอตัวลง 3) คาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนที่จะกลับมาขยายตัวขึ้นอีกครั้งในปีหน้า หลังจากปีนี้หดตัวติดลบ 4) ระดับมูลถูกกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว 10 ปี น่าสนใจลงทุน

 

แหล่งที่มา : SCBAM

แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก