Thailand Web Stat

SCBAM : Morning Update ประจำวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566

🟣Morning Update by SCBAM

📍Market update📍

📊 Major Equity Indices: S&P500+0.16%, NASDAQ+0.07%, STOXX600+0.42%, Nikkei225+2.52%, HSCEI+4.02%, CSI300+0.70%, KOSPI+2.20%, NIFTY+1.19%, SET+2.10%, VNINDEX+1.15%, TH Reits+1.25%, SG Reits+3.94%

📊 Sector Return: Consumer Staples-XLP(+0.80%), Financial-XLF(+0.55%), Communication Services-XLC(+0.49%), Healthcare-XLV(+0.08%), Energy-XLE(-0.19%), Utilities-XLU(-0.31%)

📊 USBY2Y 4.91%, USBY10Y 4.53%, WTI $76.66/bbl, Gold $1,959.85/oz, DXY 104.39

📰 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกเล็กน้อยจากดัชนีเศรษฐกิจที่ยังทยอยออกมาหนุนความคาดหวังว่า Fed จบรอบดอกเบี้ยขาขึ้นและจะกลับทิศนโยบายในปีหน้า

📰 ตัวเลขยอดค้าปลีกสหรัฐฯ เดือนต.ค. ดีกว่าคาดแต่หดตัวลงและตํ่ากว่าเดือนก่อน (-0.1% vs -0.3% vs 0.9%MoM) ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค. ตํ่ากว่าคาดและเดือนก่อนทั้งเทียบรายเดือนและรายปี (-0.5% vs 0.1% vs 0.4%MoM, 1.3% vs 1.9% vs 2.2%YoY)

⏭️ ยอดค้าปลีกหากพิจารณาแต่ละรายการส่วนใหญ่มีทิศทางชะลอตัวมีเพียงแค่ Health & Personal Care ที่ยังขยายตัวได้ดีมาก บ่งชี้แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวลงและการที่เงินเฟ้อ PPI ชะลอตัวสอดคล้องไปกับ CPI วันก่อนหน้ายิ่งสร้างความคาดหวังของนักลงทุนว่าวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นสิ้นสุดแล้ว หนุน sentiment บวกต่อตลาดการเงินต่อไป

📰 ตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานปรับตัวบวกขึ้นเป็นส่วนใหญ่ตาม sentiment บวกฝั่งสหรัฐฯ และดัชนี Dollar index ที่กลับมาอ่อนค่าหนุนเงินทุนต่างชาติไหลเข้า

📰 ดัชนีเศรษฐกิจญี่ปุ่น GDP3Q23 เบื้องต้นออกมาหดตัวตํ่ากว่าคาด (-2.1% vs -0.6%YoY, -0.5% vs -0.1%QoQ) โดยการส่งออกและท่องเที่ยวหดตัวแรงเป็นตัวฉุดตัวเลขโดยรวม

⏭️ รายงานข้างต้นบ่งชี้แนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่นอาจผ่านจุดสูงสุดไปแล้วและมีความเสี่ยงเกิดเศรษฐกิจถดถอยเชิงเทคนิคหากไตรมาสถัดไปยังหดตัวต่อเนื่อง นอกจากนี้หากเงินเฟ้อยังคงสูงกว่าเป้าต่อเนื่องจะเพิ่มแรงกดดันให้ BOJ ไม่สามารถดำเนินนโยบายผ่อนคลายต่อไป โดยการที่ตลาดหุ้นไม่ตอบสนองต่อความเสี่ยงและปรับตัวขึ้นตามตลาดโลกจนใกล้แนวต้านเดิม ยิ่งทำให้เราระมัดระวังและไม่แนะนำเข้าลงทุนตอนนี้

📰 ดัชนีเศรษฐกิจสำคัญของจีนโดยรวมออกมาดีกว่าคาด ตัวเลขยอดค้าปลีกเดือนต.ค. ออกมาดีกว่าคาดและเดือนก่อน (7.6% vs 7.0% vs 5.5%YoY), ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค. ออกมาดีกว่าคาดและเดือนก่อน (4.6% vs 4.4% vs 4.5%YoY) แต่ตัวเลขยอดลงทุนสินทรัพย์คงทนตํ่ากว่าคาดและเดือนก่อน (2.9% vs 3.1% vs 3.1%YoY)

⏭️ ดัชนีเศรษฐกิจจีนหากทยอยออกมาดีกว่าคาดและขยายตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะถัดไป คาดว่าจะช่วยหนุนการฟื้นตัวของตลาดหุ้นจีนอย่างค่อยเป็นค่อยไป

📰 การพบกันระหว่างปธน. สหรัฐฯและปธน.จีน ในการประชุม APEC มีสัญญาณจะเป็นไปในทางที่ดี โดยปธน. สหรัฐฯ กล่าวก่อนเริ่มงานว่าเราต้องทำให้มั่นใจว่าการแข่งขันระหว่างกันจะไม่นำไปสู่ความขัดแย้ง เนื่องจากโลกปัจจุบันเผชิญความท้าทายหลายเรื่องซึ่งต้องการความร่วมมือกันมากกว่า ขณะที่ปธน. จีนกล่าวในท่าทีสอดคล้องกันว่าโลกใบนี้ใหญ่พอสำหรับ 2 ประเทศมหาอำนาจที่จะประสบความสำเร็จร่วมกัน ความขัดแย้งไม่ใช่ทางเลือก ทั้งนี้ในการประชุมดังกล่าวคาดว่าจะมีการหารือเรื่องสำคัญอย่างการที่สหรัฐฯ ควบคุมจีนไม่ให้เข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง

⏭️ การพบกันระหว่าง 2 ผู้นำถือเป็นสัญญาณบวกที่อาจช่วยลดความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีนลงบ้าง โดยเราเห็นพัฒนาการเชิงบวกตั้งแต่ก่อนการประชุมแล้วเช่น จีนตกลงกลับมานำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ อีกครั้งในเดือนที่แล้วและกระทรวงพาณิชย์จีนประกาศเตรียมแก้ปัญหาการปฏิบัติที่ไม่เท่าเทียมกันระหว่างบริษัทต่างชาติและบริษัทในประเทศในช่วงสัปดาห์ก่อน ซึ่งหากผลการประชุมออกมาดีอาจช่วยหนุนแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติไหลกลับเข้าตลาดหุ้นจีนโดยเฉพาะหุ้นจีน Offshore

 

🔰 Outlook & Implication

 

✅️ ปัจจัยมหภาคเริ่มผ่อนคลายและสถิติในอดีตเชิงฤดูกาลสนับสนุนการฟื้นตัวระยะสั้น อย่างไรก็ตามจากปัจจัยสภาพคล่องโลกที่ยังลดลงต่อเนื่องและระดับมูลค่าตราสารหนี้ที่ดูจูงใจกว่าในเชิงเปรียบเทียบกับตลาดหุ้น  อาจจำกัดการฟื้นตัวของตลาดหุ้นโลกระยะกลาง 3-6 เดือนข้างหน้า เราจึงมองการฟื้นตัวของตลาดหุ้นโลกรอบนี้เป็นโอกาสในการปรับพอร์ตการลงทุนให้สมดุลมากขึ้น

✅️ สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงปานกลาง-สูงแนะนำลงทุนกองทุนตราสารหนี้โลก SCBINCA ที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากราคาตราสารหนี้ที่มักปรับตัวขึ้นต่อเนื่องหลัง Fed จบรอบดอกเบี้ยขาขึ้น, อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ที่อยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีและสำหรับกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน โดยเฉพาะยามที่ความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มสูงขึ้นในปีหน้า

✅️ กลุ่มหุ้นคุณภาพสูงที่คาดว่าจะสามารถทนทานในสภาวะดอกเบี้ยสูงและช่วงปลายวัฏจักรเศรษฐกิจได้ดีกว่าตลาดโดยรวมได้แก่ SCBGQUAL, SCBPGF

✅️ ตลาดหุ้นเวียดนามน่าสนใจในมุมระดับมูลค่าถูกเมื่อเทียบตัวเองในอดีตและภูมิภาค ขณะที่เศรษฐกิจและผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง หากประเด็นความกังวลเรื่องสภาพคล่องของ Vingroup ไม่ขยายวงและค่าเงินดอลลาร์ยังอ่อนค่า เราคาดหวังการฟื้นตัวต่อตามตลาดหุ้นโลกแนะนำลงทุนกองทุน SCBVIET โดยดัชนี VN index ที่ตํ่ากว่า 1,100 จุดเป็นระดับที่น่าสะสมแบ่งไม้ลงทุน

 

 

แหล่งที่มา : SCBAM

แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก