🟣Morning Update by SCBAM

📍Market update📍

📊 Major Equity Indices: S&P500+0.52%, NASDAQ+0.90%,

STOXX600+0.00%, Nikkei225-0.11%, HSCEI-0.19%, CSI300+1.91%, KOSPI-0.37%, NIFTY+0.14%, SET-0.82%, VNINDEX-0.15%, TH Reits-0.86%, SG Reits+0.29%

📊 Sector Return: Technology-XLK(+1.11%), Communication Services-XLC(+0.89%), Real Estate-XLRE(+0.80%), Financial-XLF(-0.05%),  Consumer Staples-XLP(-0.16%), Health Care-XLV(-0.82%),

📊 USBY2Y 4.62%, USBY10Y 4.25%, WTI $78.26/bbl, Gold $2,044.30/oz, DXY 104.13

📰 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นหลังรายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯ ออกมาตามคาด ขณะที่ตัวเลขฝั่งแรงงานชะลอลงช่วยหนุนความหวังว่าแนวโน้มเงินเฟ้อจะชะลอต่อในอนาคต

📰 ดัชนีเงินเฟ้อทั่วไปสหรัฐฯ  (PCE) เดือนม.ค. เมื่อเทียบเป็นรายเดือนออกมาตามคาดแต่สูงกว่าเดือนก่อน (0.3% vs 0.3% vs 0.1%MoM) ขณะที่เทียบเป็นรายปีออกมาตามคาดแต่ตํากว่าเดือนก่อน (2.4% vs 2.4% vs 2.6%YoY) ตามลำดับ

📰 ดัชนีเงินเฟ้อพื้นฐานสหรัฐฯ (Core PCE) เดือนม.ค. เมื่อเทียบเป็นรายเดือนออกมาตามคาดแต่สูงกว่าเดือนก่อน (0.4% vs 0.4% vs 0.1%MoM) ส่วนเมื่อเทียบรายปีออกมาตามคาดแต่ตํากว่ารอบก่อน (2.8% vs 2.8% vs 2.9%YoY)

⏭️ ดัชนีเงินเฟ้อดังกล่าวถือเป็นตัวเลขที่ Fed ใช้ในการพิจารณาการดำเนินนโยบายการเงินเป็นหลัก โดยรวมถือว่าออกมาตามตลาดคาด แต่สิ่งที่ต้องระมัดระวังคือเมื่อเทียบรายเดือน MoM เห็นการเร่งตัวขึ้น ถ้าอีก 2-3 เดือนข้างหน้ายังเร่งตัวระดับ 0.3-0.4% หรือมากกว่าอาจเพิ่มความเสี่ยงที่ Fed จะเลื่อนการดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายออกไป ทั้งนี้ FedWatch Tool ล่าสุดบ่งชี้โอกาสลดดอกเบี้ยปีนี้เหลือ 3 ครั้งเท่ากับ Fed Dot Plot เดือนธ.ค. สะท้อนความหวังการลดดอกเบี้ยของนักลงทุนปรับลงมาใกล้เคียงกับ Fed แล้ว ทำให้ความเสี่ยงจากประเด็นดังกล่าวจะเข้ามากดดันต่อตลาดหุ้นมีจำกัดมากขึ้นในระยะสั้น

📰 Initial Jobless Claim ออกมาสูงกว่าคาดและรอบก่อน (215k vs 209k vs 202k) เช่นเดียวกับ Continuing Jobless Claim (1,905k vs 1,874k vs 1,860k) บ่งชี้ทั้งคนตกงานใหม่และยังคงตกงานอยู่เพิ่มมากกว่าคาด ตลาดแรงงานชะลอตัว

📰 Snowflake รายงานงบในคืนวันพุธที่ผ่านมา มีรายได้และกำไรดีกว่าตลาดคาด แต่ให้ guidance รายได้ใน 1Q24 ตำกว่าคาด นอกจากนี้ CEO บริษัท Frank Slootman ประกาศเกษียณอายุ โดยเปิดทางให้ Sridhar Ramaswamy อดีตผู้บริหารจาก Google เข้ามาทำหน้าที่แทน ส่งผลกดดันราคาหุ้นช่วง afterhours คืนวันพุธหลังรายงานกว่า -20%

📰 Tim Cook CEO ของ Apple กล่าวในงานพบผู้ถือหุ้นประจำปีว่าบริษัทกำลังลงทุนมหาศาลในการพัฒนา Generative AI และคาดว่าจะสามารถเปิดตัวผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้องได้ภายในปีนี้

📰 ตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานบวกลบสลับกันไป ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในกรอบแคบ เพื่อรอดูการรายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯ

📂BofA Global Earnings Revision Ratio as of 23/02/24 สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้

1) Global Earnings Revision Ratio (สัดส่วนของจำนวนบริษัทที่ถูกปรับคาดการณ์กำไรขึ้นเทียบจำนวนบริษัทที่ถูกปรับคาดการณ์กำไรลง ยิ่งมีค่าสูงยิ่งดี) ปรับตัวดีขึ้นจาก 0.73 เป็น 0.75 ในเดือนก.พ. จากสถิติเชิงฤดูกาลมีแนวโน้มที่ ratio ดังกล่าวจะดีขึ้นต่อเนื่องในเดือนมี.ค.-พ.ค. ส่งสัญญาณบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นโลก เนื่องจากมีค่าความสัมพันธ์ต่อกันค่อนข้างสูง

2) พิจารณารายประเทศ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นสูงสุดจาก 0.99 เป็น 1.18 รองมาเป็นตลาดหุ้นสหรัฐฯ จาก 0.84 เป็น 0.88 ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียไม่รวมญี่ปุ่นกลับปรับลดลงจาก 0.63 เป็น 0.60 นำลงโดยตลาดหุ้นอินเดีย, อินโดนีเซียและมาเลเซีย บ่งชี้โมเมนตัมกำไรโดยรวมของภูมิภาคยังคงอ่อนแอ

3) พิจารณารายอุตสาหกรรม กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีสัดส่วนดังกล่าวสูงที่สุดได้แก่ Insurance (0.98), Financials (0.96) และ Software (0.93) ขณะที่ Energy (0.52), Semis (0.54) และ Materials (0.57) มีสัดส่วนดังกล่าวตําที่สุด

🔰Outlook & Implication

✅️สำหรับตลาดหุ้นเรามีมุมมองเชิงบวกต่อภาพการลงทุนระยะ 3 เดือนข้างหน้า แต่หลังจบช่วงการประกาศงบ นักลงทุนอาจหันไปให้ความสำคัญต่อปัจจัยมหภาคมากขึ้น ซึ่งอาจสร้างความผันผวนและเพิ่มความเสี่ยงที่ตลาดหุ้นอาจจะพักฐานระยะสั้น สรุปคำแนะนำ ถือลงทุนต่อและรอจังหวะเข้าลงทุนเพิ่มหากปรับย่อ

✅️ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปัจจุบันยังคงมี Sentiment เชิงบวกจากเเนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังคงเติบโต ภาคแรงงานที่ยังแข็งแกร่ง เงินเฟ้อที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงต่อเนื่อง ความชัดเจนของการปรับลดดอกเบี้ย Fed มีมากขึ้น รวมถึงงบการเงินที่ยังคงทำได้ดีกว่าคาดการณ์ แนะนำทยอยสะสมเมื่อตลาดปรับย่อในกองทุนดัชนีหุ้นสหรัฐฯ SCBS&P500A, SCBNDQ(A) ส่วน Active Fund เเนะนำทยอยสะสมกอง SCBDIGI ที่มีการถือครองที่หลากหลาย ผสมผสานทั้ง Big Tech และหุุ้น Tech ขนาดกลาง-เล็ก อีกทั้งยังเปิดโอกาสในการเติบโตจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว เเละการมาของกระเเส AI Spreading อีกด้วย

✅️ สำหรับสินทรัพย์ที่มีความอ่อนไหวต่อแนวโน้มดอกเบี้ยอย่าง Bonds และ REITs เราเริ่มเห็นสัญญาณเชิงบวกมากขึ้น หลังนักลงทุนเริ่มปรับลดความคาดหวังการลดดอกเบี้ยในปีนี้มาใกล้เคียงกับมุมมองของ Fed แล้วดังนั้นจึงเป็นจังหวะทยอยสะสมหนึ่งในธีมหลักของเรา “Attractive Yield Plays” กองทุนแนะนำ SCBDBOND (กองตราสารหนี้ในประเทศ), SCBINC (กองตราสารหนี้โลก) และ SCBPINA (กอง REITs ไทยและสิงคโปร์)

แหล่งที่มา : SCBAM

แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก