เปรียบเทียบ RMF vs Thai ESG เลือกแบบไหนดี เพื่อการลงทุนอย่างมั่นใจ
หลายคนมีข้อสงสัยว่าควรวางแผนภาษีรายปีด้วยการซื้อ RMF หรือควรเทใจให้น้องใหม่อย่าง Thai ESG แบบไหนให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า เพราะกองทุนรวมทั้งคู่สามารถนำไปใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปีไม่ต่างกัน แต่ด้วยเงื่อนไข วัตถุประสงค์ และนโยบายในการลงทุนแตกต่างกันทำให้การตัดสินใจเลือกอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย บทความนี้จะนำคุณไปทำความเข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างกองทุนรวมทั้ง 2 รูปแบบว่า กองทุนไหนเหมาะกับแผนการลงทุนของคุณมากที่สุด
ทำความรู้จัก RMF และ Thai ESG เพื่อการลงทุนที่ง่ายขึ้น
เพื่อการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพและตรงเป้าหมาย ผู้ลงทุนควรการทำความเข้าใจรายละเอียดของ RMF และ Thai ESG ทั้งในส่วนเงื่อนไขการลงทุน รูปแบบการลงทุน ผลตอบแทน และสิทธิประโยชน์ที่ผู้ลงทุนได้รับ ดังนั้นเพื่อการตัดสินใจง่ายขึ้น มาดูข้อมูลของกองทุน RMF หรือกองทุน Thai ESG มีอะไรน่าสนใจบ้าง
กองทุน RMF (Retirement Mutual Fund)
กองทุน RMF คือกองทุนรวมมุ่งเน้นการออมเงินระยะยาว เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับวัยเกษียณ มีความยืดหยุ่นในด้านความเสี่ยง เนื่องจากขึ้นอยู่กับนโยบายการลงทุนของแต่ละกองทุน โดยผู้ลงทุนสามารถตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ได้หลายประเภท เช่น หุ้น พันธบัตร ตราสารหนี้ ทองคำ หรืออสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น ทั้งนี้ผู้ลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์จากการซื้อกองทุนในการนำไปใช้เพื่อลดหย่อนภาษีอีกด้วย ทำให้เป็นหนึ่งในกองทุนทางเลือกที่น่าสนใจของนักลงทุนมาโดยตลอด ซึ่งมีข้อมูลเงื่อนไขดังนี้
เงื่อนไขการลงทุนกองทุน RMF และสิทธิประโยชน์ทางภาษี
- กองทุน RMF ไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล
- ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปีไม่น้อยกว่า 5 ปี เต็ม และสามารถเว้นได้ไม่เกิน 1 ปี
- สามารถขายหน่วยคืนได้เมื่อถือหน่วยลงทุนครบ 5 ปี และมีอายุครบ 55 ปี
- สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของรายได้ และหากรวมกับค่าลดหย่อนการออมอื่น ๆ เพื่อการเกษียณจะต้องไม่เกิน 500,000 บาท ต่อปี
กองทุน Thai ESG (Environmental, Social, Governance)
กองทุน Thai ESG หรือ “กองทุนไทยเพื่อความยั่งยืน” เป็นกองทุนมุ่งเน้นการลงทุนในภาครัฐและเอกชนในประเทศไทย ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ฯลฯ อย่างยั่งยืน ควบคู่กับการดำเนินงานที่ดี มีการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ เช่น หุ้น และตราสารหนี้ในประเทศไทย เป็นต้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีความสนใจลงทุนในกองทุนกลุ่ม ESG และผู้ที่ต้องการลดหย่อนภาษี โดยมีข้อมูลดังนี้
เงื่อนไขการลงทุนกองทุน Thai ESG และสิทธิประโยชน์ทางภาษี
- กองทุน Thai ESG ไม่มีกำหนดการลงทุนขั้นต่ำ และไม่บังคับซื้อทุกปี
- ต้องถือหน่วยลงทุน Thai ESG เป็นเวลา 5 ปี เต็ม นับจากวันที่ซื้อหน่วย (ตามเงื่อนไขใหม่ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567)
- กองทุน Thai ESG ลดหย่อนภาษีไม่เกิน 30% ของรายได้ และสูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท โดยไม่นำไปรวมกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ
เปรียบเทียบความเหมือน-ความต่างของกองทุน RMF และ Thai ESG เพื่อเลือกกองทุนที่ใช่สำหรับคุณ!
เพื่อให้การตัดสินใจเลือกหน่วยกองทุนรวมที่เหมาะสมต่อผู้ลงทุนมากที่สุดมาดูความเหมือนและความแตกต่างระหว่างกองทุน RMF และกองทุน Thai ESG เพื่อใช้ตัดสินใจว่ากองทุนแบบไหนเหมาะกับคุณมากที่สุด
วัตถุประสงค์ของกองทุน RMF
- เน้นการออมเงินระยะยาว
- สร้างความมั่นคงทางการเงินในวัยเกษียณ
วัตถุประสงค์ของกองทุน Thai ESG
- กองทุน Thai ESG เน้นการลงทุนในกลุ่มธุรกิจสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาลในไทยเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย
- กระตุ้นการออมและลงทุนระยะยาว
จุดเด่นกองทุน RMF
- กำไรจากการลงทุนกองทุน RMF ไม่นำไปคิดภาษี สามารถนำไปใช้เพื่อลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลประจำปีได้
- ลงทุนได้ทุกสินทรัพย์ โดยไม่กำหนดขั้นต่ำในการลงทุน เช่น หุ้น ตราสารหนี้ ทองคำ หรืออสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ มีช่องทางสำหรับลงทุนกองทุน RMF หลายช่องทาง เช่น ธนาคาร บลจ.
จุดเด่นกองทุน Thai ESG
- ไม่จำเป็นต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี และไม่จำกัดอายุการขายคืน
- สนับสนุนการลงทุนในหุ้น, ตราสารหนี้, ตราสารทุน ที่มีความโดดเด่นด้าน ESG มากกว่า 80%
- มีช่องทางสำหรับลงทุนในกองทุน Thai ESG หลายช่องทาง เช่น ธนาคาร บลจ. หรือแอปพลิเคชันลงทุน อย่าง WealthMagik เป็นต้น
- นำไปใช้ลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม โดยไม่นำไปรวมกับกองทุนเพื่อเกษียณอื่น ๆ สามารถขายกองทุน Thai ESG คืนเมื่อถือครบกำหนด 5 ปี และไม่ต้องรออายุครบ 55 ปี
สิทธิประโยชน์ด้านภาษีของกองทุน RMF
- ยกเว้นภาษีเมื่อถือกองทุน RMF ครบ 5 ปี และมีอายุ 55 ปี
- ลดหย่อนภาษี 30% ของเงินได้ และสูงสุด 500,000 บาท (เมื่อรวมกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ)
สิทธิประโยชน์ด้านภาษีของกองทุน Thai ESG
- ยกเว้นภาษีเมื่อถือครบ 5 ปี
- ลดหย่อนภาษีไม่เกิน 30% ของรายได้ และสูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท โดยไม่นำไปรวมกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ
เงื่อนไขการซื้อกองทุน RMF
- ไม่มีกำหนดขึ้นต่ำ แต่ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี (เว้นได้ไม่เกิน 1 ปี)
เงื่อนไขการซื้อกองทุน Thai ESG
- ไม่มีกำหนดขั้นต่ำ และไม่ต้องซื้อทุกปี
ระยะเวลาในการลงทุนกองทุน RMF
- ถือกองทุน RMF อย่างน้อย 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วย
ระยะเวลาในการลงทุนกองทุน Thai ESG
- ถือกองทุน Thai ESG อย่างน้อย 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อ
สรุป: กองทุน RMF และ Thai ESG ตัวเลือกของนักลงทุนที่ได้รับความนิยม
ปัจจุบันทั้งกองทุน RMF และ Thai ESG ถือเป็นเครื่องมือการลงทุนที่ได้รับความนิยมของนักลงทุนในไทยมาโดยตลอดเนื่องจากมีจุดเด่นด้านสิทธิประโยชน์ด้านภาษี และช่วยในการวางแผนการเงินระยะยาว อย่างไรก็ตามผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูล วัตถุประสงค์ เงื่อนไขการลงทุนของกองทุนรวมและเปรียบเทียบข้อมูลต่าง ๆ อย่างรอบคอบ จากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ เพื่อลดความเสี่ยงและเลือกกองทุนที่เหมาะสมต่อเป้าหมายของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ











